ประเทศญี่ปุ่น อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเกาะคิวชู ที่เคยเป็นเมืองท่าสำคัญของญี่ปุ่น ด้วยความเป็นเมืองที่เงียบสงบ ผู้คนไม่แออัดรวมถึงการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตบนเกาะแห่งนี้คือ เมืองฟุกุโอกะ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะ โดยที่นี่คือจุดศูนย์กลางด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และจุดเริ่มต้นของแฟชั่นที่หลากหลาย ดังนั้นเราจึงรวบรวม 10 แหล่งท่องเที่ยวในเมืองฟุกุโอกะมาให้ชมเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยและเพิ่มความรู้ก่อนเดินทาง
1. Kyushu National Museum
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งที่ 4 ของญี่ปุ่น ที่มีขนาดมหึมาโดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปี ค.ศ. 2005ภายใต้คอนเซป “เข้าใจญี่ปุ่นแผ่นแนวคิดของเอเชีย” ให้เข้ากับเกาะคิวชูที่เป็นเมืองท่าสำคัญในการเชื่อมต่อกับเอเชียโดยภายนอกถูกสร้างเป็นอาคารที่มีกระจกสีน้ำเงินขนาดใหญ่ ภายในแบ่งส่วนต่างๆออกเป็น 4 ชั้นโดยมีนิทรรศการหลักหรือนิทรรศการพิเศษที่จะเปลี่ยนไปตามโอกาส อีกทั้งยังเป็นที่เก็บรวบรวมสิ่งของที่มีค่าเป็นมรดกของชาติ และของเพื่อนบ้านที่มองให้ญี่ปุ่น อาทิ ระฆังโบราณขนาดยักษ์ ภาพวาดโบราณ พระพุทธรูป และอื่นๆอีกมากมาย
2. Dazaifu Tenmangu
แม้ที่นี่จะมีความเจริญเข้ามามากขึ้นแต่สำหรับศาลเจ้าแห่งนี้ก็ยังคงมีมนต์ขลังอยู่โดยศาลเจ้านี้ถือว่ามีชื่อเสียงอย่างมากถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ท่าน Sugawara Michizane ซึ่งเป็นผู้มีอัจฉริยภาพทางการเรียนรู้ และการความสามารถด้านต่างๆตั้งแต่วัยเยาว์ ซึ่งเป็นที่เลื่องลือแก่คนทั่วไปในยุคเฮอัน และหลังจากท่านเสียชีวิตชาวบ้านจึงยกย่องท่านในฐานะเทพเจ้า Tenjin เทพเจ้าแห่งการเรียนรู้ดังนั้นหากได้มาที่นี่เราจะได้เห็นนักเรียนนักศึกษาต่างมาไหว้ขอพรเพิ่มเสริมความมั่นใจเรื่องของการสอบ ซึ่งการเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ยาก สามารถเดินทางด้วยรถไฟทั้ง JR และ Subway
3. Tochoji Temple
วัดหลักของศาสนาพุทธนิกายชินกอนของภูมิภาคคิวชู มีอีกชื่อว่า นันกากุซัน ตามประวัติเป็นวัดเก่าที่ถูกสร้างตั้งแต่ ค.ศ.806โดยพระชื่อดัง Kobo-Daishi สมัย Heian ซึ่งถือเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นและได้รับการดูแลให้เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ของเมืองฟุกุโอกะ ภายในวัดมีวิหารซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปนั่งทำจากไม้แกะสลักที่ว่ากันว่าเป็นพระพุทธรูปนั่งที่ทำจากไม้ที่สุดที่สุดในญี่ปุ่นโดยใช้เวลาสร้างนานถึง 4 ปี โดยเป็นที่รู้จักกันในนาม Fukuoka Daibutsu หรือพระใหญ่แห่งฟุกุโอกะ
4. Canal City
หรือในอีกชื่อคือ Canal City Hakata เป็นศูนย์รวมการค้าและความบันเทิงครบวงจร และเหตุที่ตั้งชื่อว่า Canal City เนื่องจากมีการขุดคลองให้ไกลผ่านใจกลางห้าง ซึ่งถือเป็นจุดขายของที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวภายในยังมีโรงแรมซึ่งอยู่ในเครือของ Hilton และ Washington คอยให้บริการ และการเดินทางมานี่นั้นไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเลย เนื่องจากอยู่ระหว่างสถานี HAKATA และ สถานีรถไฟ TENJIN ซึ่งใช้ระเวลาระหว่างกันเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ คือชั้นที่ 5 ของที่นี่จะมีศูนย์อาหารที่ขายเฉพาะราเมนเท่านั้น ซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างจากทั่วไปคือการสั่งจะเป็นตู้กด หรือจะเลือกซื้อตามร้านก็ไม่ว่ากัน
5. Ruins of Fukuoka Castle (Maizuru Park)
ไม่ไกลจากเดิมนักแวะชมซากปรักหักพังที่ยังหลงเหลือของปราสาทฟุกุโอกะซึ่งตั้งอยู่ภายในสวนมาอิซูรูซึ่งถูกทำลายลงเนื่องจากการเปลี่ยนผ่านไปเป็นยุคเมจิ โดยคนสมัยนั้นมองว่านี่เป็นสัญลักษณะของคนในอดีตในปัจจุบันจึงยังหลงเหลือเพียงเศษซากของกำแพงและฐานของหอคอยอยู่ภายใน นอกจากด้านประวัติศาสตร์แล้วสถานที่แห่งนี้ยังเป็นลานชมวิวที่สำคัญของเมืองฟุกุโอกะ โดยในช่วงฤดูใบไม้ผลิเราจะมองเห็นดอกซากุระทั่วทั้งสวน จึงเป็นที่นิยมในการนั่งเล่น ปิกนิกของครอบครัวและนักท่องเที่ยวอีกมาก
6. Ohori Park
มีความหมายว่า คูน้ำรอบเมืองหรือปราสาท โดยที่นี่คือสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง เป็นสถานที่ที่คนนิยมมาออกกำลังกาย เดินเล่นกันมาก เ
พราะรอบๆสระน้ำนี้มีระยะทางที่ยาวรวมกันเกือบ 2 กิโลเมตร ซึ่งสระน้ำที่นี่แต่เดิมเคยเป็นหนึ่งในระบบคูน้ำของปราสาทฟุกุโอกะ ส่วนสวนถูกสร้างขึ้นประมาณปี 1929 โดยอิงความคลาสสิกของสวนตะวันออกแบบจีนภายในสวนจะมีจุดสนใจอยู่มากมาย อาทิ ศาลา 6 เหลี่ยมกลางน้ำ สวนสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งจะแตกต่างจากการออกแบบสวนนี้ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะรูปปั้นต่างๆ ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 จนถึงปัจจุบัน
7. Shofukuji Zen
วัดเซนแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของพิธีชงชาแบบดั้งเดิมหรือที่เราเรียกมัทฉะโดยศาสนสถานนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1195 โดยท่าน Eisai ซึ่งท่านคือผู้นำพุทธศาสนา
ฝ่ายเซนนิกายรินไซจากประเทศจีนแล้วนำมาเผยแพร่ในญี่ปุ่น ภายในวัดแห่งนี้มีความร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ และอาคารไม้เก่าที่สร้างตามรูปแบบวัดเซนซึ่งทรุดโทรมลงไปมากแต่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่เปิดให้ชมภายในแต่สามารถชมบริเวณรอบนอกและสิ่งก็สร้างสำคัญๆ ได้บ้าง เช่น Sanmon Gate ที่ถูกบูรณะขึ้นในปี ค.ศ. 1911มีลักษณะเป็นประตูขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าสระเล็กๆ และสะพานหิน และถัดจากประตูหลักเรียกว่าButsuden Hall ซึ่งเป็นประดิษฐานของพระพุทธรูปทองคำ
8. Hawks Town
ภายหลังจากการเดินเล่นที่ Momochi Seaside Park เราอาจจะเดินเล่นเรื่อยๆมาจนถึงที่ Hawks Townซึ่งสิ่งแรกที่เรามองเห็นมาแต่ไกลเลย ก็คือ Yahoo Dome หรือ Fukuoka Yahoo! Japan Dome สเตเดียมแห่งแรกในญี่ปุ่นที่สามารถปิด-เปิดหลังคาได้ โดยถูกใช้เป็นสนามแข่งขันเบสบอลในระดับมืออาชีพไม่ห่างจาก Yahoo Dome เราจะพบกับ Hawks Town Mall แหล่งช็อปปิ้งครบวงจร ที่มีร้านค้าและร้านอาหารรวมกันกว่าร้อยร้านซึ่งหากเหน็ดเหนื่อยจากการเที่ยวชมเมืองฟุกุโอกะ
9. Momochi Seaside Park
หากคุณกำลังอยู่ที่ Fukuoka Tower สถานที่ต่อไปที่อยากแนะนำคือ Momochi Seaside Parkสวนสาธารณะริมทะเลมีลักษณะเป็นพื้นที่กว้างออกสู้ทะเลฮากาตะ ภายในสวนแห่งนี้ออกตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นประดับด้วยต้นไม้เรียงรายและอาคารรูปทรงแปลกที่ทันสมัย โดยจะมีเกาะที่ลอยออกไปในทะเล เราเรียกกันว่า Marizonโดยสถานที่แห่งนี้จะเป็นแหล่งรวมร้านค้าเล็กๆ และเป็นสถานที่รับจัดงานแต่งงานด้วยจึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวแวะมาเดินเล่น ซึ่งหากได้มาที่นี่เราจะสามารถมองเห็น Yahoo Dome ได้อย่างเด่นชัด
10. Fukuoka Tower
จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น เป็นหอคอยริมทะเลที่ออกแบบโดย เซ็คเค นิคเค็น โดยมีจุดชมวิวอยู่ 3 ระดับ คือ ระดับความสูงที่ 116 , 120 และสูงสุดที่ 123 เมตร ซึ่งสามารถชมวิวในลักษณะพาโนรามา 360 องศาเลยทีเดียว แม้ว่าญี่ปุ่นจะมีปัญหาในเรื่องแผ่นดินไหว ซึ่งอาจเป็นอันตรายโดยเฉพาะตึกสูงๆ แต่จริงๆแล้ว ฟุกุโอกะทาวเวอร์ถูกออกแบบมาให้สามารถรองรับแผ่นดินไหวที่ 7 ริกเตอร์ ซึ่งการเกิดแผ่นดินไหวที่หนักที่สุดที่เคยวัดได้เพียง 6 ริกเตอร์เท่านั้น ซึ่งหากใครได้มาเที่ยวฟุกุโอกะ อยากขอแนะนำสถานที่นี้เป็นที่แรก เพื่อชมทัศนียภาพโดย ตั้งแต่พื้นดินจนถึงพื้นน้ำสุดลูกหูลูกตา โดยเฉพาะในยามพระอาทิตย์อัสดง เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก