ถู่โหลว (Tulou) เป็นอาคารดินทรงกลมหรือสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่หลายชั้น ที่สร้างขึ้นโดยชาวจีนแคะในมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ด้วยดินเหนียวและไม้ไผ่ ซึ่งเป็นวัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น อาคารเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นศูนย์กลางของชุมชน และเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวจีนแคะ
ถู่โหลวถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่งและหยวน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อป้องกันตัวจากการโจมตีของศัตรูและสัตว์ป่า นอกจากนี้ ยังเป็นการรวมญาติให้มาอยู่ร่วมกัน เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามยาก และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีในชุมชน
ด้วยความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมและคุณค่าทางวัฒนธรรม ถู่โหลวจึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี พ.ศ. 2551 โดยมี 46 หลังได้รับการขึ้นทะเบียน ซึ่งเป็นตัวแทนของความหลากหลายของรูปแบบและขนาดของถู่โหลว
ชาวจีนแคะที่อาศัยอยู่ในถู่โหลวมีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและผูกพันกับธรรมชาติ พวกเขาทำการเกษตรกรรม ปลูกข้าว ข้าวโพด และพืชผักต่างๆ นอกจากนี้ ยังเลี้ยงสัตว์ เช่น หมู ไก่ และเป็ด เพื่อเป็นอาหารและสร้างรายได้
ภายในถู่โหลว ชาวบ้านจะช่วยเหลือกันทำงานบ้าน ทำนา และดูแลผู้สูงอายุ เด็กๆ จะได้รับการศึกษาจากผู้ใหญ่ในชุมชน และมีการจัดกิจกรรมร่วมกัน เช่น งานเทศกาล งานแต่งงาน และงานศพ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีในชุมชน
แม้ว่าวิถีชีวิตภายในถู่โหลวจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่ความสำคัญของถู่โหลวในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมยังคงอยู่ ปัจจุบัน ถู่โหลวได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติมาเยี่ยมชม เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตและเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวจีนแคะ
การอนุรักษ์ถู่โหลวเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ลูกหลานได้เรียนรู้และสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่านี้ไปสู่รุ่นหลัง หน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ถู่โหลว โดยมีการดำเนินการต่างๆ เช่น การบูรณะซ่อมแซมถู่โหลวที่ชำรุด การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์เพื่อจัดแสดงวัตถุโบราณและเครื่องมือที่ใช้ในชีวิตประจำวันของชาวจีนแคะ และการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์