จัตุรัสเทียนอันเหมิน ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศจีน ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปักกิ่งด้วยพื้นที่ครอบคลุมกว่า 444,000 ตารางเมตร มีความยาวทิศเหนือถึงใต้ 880 เมตร และทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตกกว่า 500 เมตร และยังเป็นหนึ่งในประตูทางเข้าพระราชวังต้องห้ามอันเลื่องชื่อ ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญและเป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย และสำหรับใครที่กำลังแพลนจะมาเที่ยวที่นี่เรามีพิกัดที่พลาดไม่ได้มาฝากกันค่ะ
ขึ้นในปีค.ศ. 1952 โดยพรรคคอมมิวนิสต์ของประเทศจีน เพื่อเป็นการรำลึกถึงประชาชาชาวจีนที่ร่วมกันต่อสู้จนสามารถรวบรวมแต่ละสาธารณรัฐจนประสบผลสำเร็จ นอกจากนี้แล้วยังมีภาพสลักที่เผยแพร่ตำนานของการปฏิวัติจีนซึ่งมีลายมือของประธานเหมา เจ๋อตุง อีกด้วย
เป็นพลับพลาสีแดงที่ประดับด้วยรูปภาพของประธานเหมอ เจ๋อตุง อยู่ตรงกลางเด่นอยู่เหนือซุ้มประตู ในขณะที่ตัวอักษรซึ่งแสดงอยู่ทั้งสองฝั่งเขียนประดับไว้ว่า “ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนจงเจริญ” และ “ความสามัคคีประชาชนทั่วโลกจงเจริญ” หากนักท่องเที่ยวคนไหนที่ต้องการเข้ามาชมอย่างใกล้ชิดและเก็บภาพประทับใจจะต้องเดินทางข้ามสะพานหินหยกขาวเสียก่อน ซึ่งในช่วงค่ำคืนจะสวยงามอย่างมาก
“พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีน” ได้เปิดให้เหล่านักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 2003 ซึ่งจะตั้งอยู่บริเวณฝั่งตะวันออกของจัตุรัสเทียนอันเหมิน ลักษณะเป็นอาคารแบ่งเป็นสองฝั่ง ประกอบไปด้วยฝั่งเหนือใช้ในการจัดแสดงพิพิธภัณฑ์การปฏิวัติของจีน และฝั่งใต้ใช้ในการจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จีน ที่จะทำให้คุณได้พบกับผลงานทางประวัติศาสตร์ที่มีทั้งโบราณวัตถุและโบราณคดี รวมไปถึงเหตุการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ในสมัยก่อนที่จะทำให้คุณรุ่นหลังได้ตระหนักถึงการรวบรวมประเทศชาติจีนให้เป็นปึกแผ่น ซึ่งในอดีตถือว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก
เปิดอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1959 โดยมีจุดประสงค์คือเป็นที่ทำการสภานิติบัญญัติของจีน รวมไปถึงเป็นสถานที่สำคัญในการจัดแสดงงานต่างๆ เพื่อต้อนรับแขกคนสำคัญระดับประเทศ ซึ่งถ้าหากว่าไม่ได้อยู่ในช่วงที่ต้องดำเนินการเรื่องสำคัญ ก็จะเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมกันได้ตามปกติ
หากใครต้องการเข้ามาเยี่ยมชมจัตุรัสเทียนอันเหมิน สามารถซื้อตั๋วเข้าได้ในราคาประมาณ 15 หยวน ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 9.00-16.30 น. ทุกวันค่ะ แนะนำว่าหากจะไปเที่ยวที่นี่ควรหลีกเลี่ยงวันสำคัญๆ ต่างๆ และวันหยุดยาวจะดีที่สุดค่ะเพราะคนจะเยอะมากๆ เลยล่ะ