logo
image

icon-travel-2 มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก สัญลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของยุโรป

มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก สัญลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของยุโรป

กุมภาพันธ์ 13, 2024
แชร์ :

มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก
สัญลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของยุโรป

มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก
มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก

มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก (Cathédrale de Strasbourg) หรือ มหาวิหารแม่พระแห่งสตราสบูร์ (Cathédrale Notre-Dame de Strasbourg) เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกที่มีฐานะเป็นอาสนวิหาร ตั้งอยู่ที่เมืองสตราสบูร์ แคว้นกร็องแต็สต์ ประเทศฝรั่งเศส อันเป็นที่ตั้งของอัครมุขมณฑลสทราซบูร์ ส่วนหลักของสถาปัตยกรรมเป็นแบบโรมาเนสก์ แต่ยังมีส่วนประกอบที่สำคัญของสถาปัตยกรรมแบบกอทิกตอนปลายที่งดงามที่สุดแห่งหนี่ง

มหาวิหารแห่งนี้เคยได้รับการบันทึกเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความสูงที่สุดในโลก ในช่วงปี ค.ศ. 1647 จนถึงปี ค.ศ. 1874 ด้วยความสูงถึง 142 เมตร ซึ่งในปัจจุบัน ถือเป็นวิหารที่สูงที่สุดอันดับที่หกของโลก และสูงที่สุดเป็นอันดับสองรองจากอาสนวิหารรูอ็อง และยังถือเป็นวิหารที่สูงที่สุดที่สร้างในยุคกลาง ที่ยังคงสภาพอยู่ในปัจจุบัน

มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก
มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก

มหาวิหารแห่งสตราสบูร์กเป็นสัญลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของยุโรป สร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพูจากเทือกเขาโวเจส์ ใช้เวลาสร้างนานถึง 300 ปี เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1439 สถาปัตยกรรมภายนอกของมหาวิหารโดดเด่นด้วยหอคอยคู่สูงตระหง่าน ตกแต่งด้วยลวดลายวิจิตรบรรจง ส่วนภายในตกแต่งอย่างหรูหราด้วยหน้าต่างกระจกสี ประติมากรรม และภาพวาด

มหาวิหารแห่งนี้มีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก เป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นพระแม่มารีที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ “Notre-Dame de Strasbourg” เป็นที่จัดงานพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญมากมาย รวมถึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองสตราสบูร์

ประวัติความเป็นมา

การก่อสร้างมหาวิหารแห่งสตราสบูร์กเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1176 ภายใต้การนำของบิชอป เออร์วินแห่งสเตนบาค (Erwin von Steinbach) ในช่วงแรกอาคารมีลักษณะเป็นแบบโรมาเนสก์ ต่อมาในศตวรรษที่ 13 สถาปัตยกรรมแบบกอทิกเริ่มได้รับความนิยมในยุโรป มหาวิหารแห่งสตราสบูร์กจึงได้รับการปรับปรุงและเปลี่ยนโฉมเป็นแบบกอทิกตอนปลาย

มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก
มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก

การก่อสร้างมหาวิหารดำเนินไปอย่างล่าช้า เนื่องจากปัญหาด้านงบประมาณและความขัดแย้งทางการเมือง หอคอยคู่ของมหาวิหารเริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1277 และใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 200 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ หอคอยคู่แห่งนี้มีความสูงถึง 142 เมตร เคยได้รับการบันทึกเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก จนกระทั่งหอคอยไอเฟลสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1889

มหาวิหารแห่งสตราสบูร์กได้รับการบูรณะซ่อมแซมหลายครั้งในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา โดยครั้งสำคัญที่สุดคือในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มหาวิหารได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายเยอรมัน แต่ได้รับการบูรณะให้กลับมาสวยงามดังเดิม

สถาปัตยกรรม

มหาวิหารแห่งสตราสบูร์กเป็นอาคารขนาดใหญ่ กว้าง 148 เมตร ยาว 142 เมตร สูง 142 เมตร สร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพูจากเทือกเขาโวเจส์ สถาปัตยกรรมภายนอกของมหาวิหารโดดเด่นด้วยหอคอยคู่สูงตระหง่าน ตกแต่งด้วยลวดลายวิจิตรบรรจง

หอคอยคู่ของมหาวิหารมีชื่อว่า “หอคอยเหนือ” (North Tower) และ “หอคอยใต้” (South Tower) หอคอยเหนือมีความสูง 142 เมตร เคยได้รับการบันทึกเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก จนกระทั่งหอคอยไอเฟลสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1889 หอคอยใต้มีความสูง 125 เมตร

มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก
มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก

ด้านหน้าของมหาวิหารมีประตูทางเข้า 3 ประตู ตกแต่งด้วยประติมากรรมและภาพวาดที่สวยงาม ประตูกลางเรียกว่า “ประตูหลัก” (Main Portal) ตกแต่งด้วยภาพแกะสลักเรื่องราวจากพระคัมภีร์ไบเบิล

ภายในมหาวิหารตกแต่งอย่างหรูหราด้วยหน้าต่างกระจกสี ประติมากรรม และภาพวาด หน้าต่างกระจกสีของมหาวิหารมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ประกอบด้วยหน้าต่างกระจกสีขนาดใหญ่ 17 บาน แต่ละบานมีลวดลายวิจิตรบรรจง เล่าเรื่องราวจากพระคัมภีร์ไบเบิลและเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์

มหาวิหารแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นพระแม่มารีที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ “Notre-Dame de Strasbourg” รูปปั้นนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 134


บทความที่เกี่ยวข้อง