8 สถานที่ท่องเที่ยว แคชเมียร์ ที่น่าสนใจ – หนีร้อน ตะลอนต่างแดน
แคชเมียร์ เป็นดินแดนทางตอนเหนือสุดของประเทศอินเดีย มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม มองเห็นเทือกเขาหิมาลัยอยู่ไม่ไกล มีหุบเขาแห่งดอกไม้ทะเลสาบอันเงียบสงบ ลักษณะคล้ายประเทศฝั่งยุโรปและมีอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็น ทำให้ได้รับการกล่าวขานว่าเปรียบเหมือนเป็นสวรรค์บนดิน และยังเป็นอีกรัฐหนึ่งที่ได้รับฉายาว่า
เดินทางโดยเครื่องบินจากท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี ลงที่สนามบินภายในประเทศเมืองศรีนาการ์ เมืองหลวงของแคชเมียร์ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางหุบเขาแคชเมียร์ที่ระดับความสูง 1,730 เมตร ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง
สร้างในช่วงสมัยของจักรพรรดิจาฮันจีร์แห่งราชวงศ์โมกุล เพื่อมอบแด่พระมเหสีเนอร์เจฮัน ผู้ทรงเป็นที่รัก และยังเป็นที่ประทับในช่วงฤดูร้อนสมัยนั้นอีกด้วย สวนนี้กว้าง 539 เมตร ยาว 182 เมตร มีพื้นที่สำหรับกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ และมีบันไดทอดผ่านให้เดินไปยังเนินด้านบนซึ่งเป็นที่ตั้งของน้ำพุ
เป็นเป็นสวนที่ใหญ่ที่สุด ที่มีต้นเมเปิลอายุกว่า 400 ปี การตกแต่งสวนก็คล้ายๆ กัน มีลานน้ำพุทอดยาวจนถึงพระที่นั่งชั้นใน แต่ที่พิเศษกว่าคือสวนทั้งหมดนั้นสร้างขึ้นบนลานที่ยกสูงขึ้น หันหน้าออกสู่ทะเลสาบดาล
สวนสวรรค์แห่งดอกไม้ ที่ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ดอกไม้เมืองหนาวจะออกดอกชูช่อสวยงาม สวนนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ซึ่งภายในจะมีการประดับตกแต่งสไตล์สวนเปอร์เซีย ประกอบด้วยสระน้ำ ลำธารและแปลงไม้ดอก
เป็นสวนสวยซึ่งอยู่ส่วนบนสุด ผู้ที่จะไปชมจะต้องเดินขึ้นบันไดหิน เพื่อชมความงดงามของดอกไม้บริเวณระเบียงประตูด้านบน
ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแคชเมียร์ คุณจะได้เห็น เรือชิคารา เรือพายโบราณ ชาวแคชเมียร์ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมน้ำจะใช้เป็นพาหนะสำหรับสัญจรไป-มาเพื่อประกอบอาชีพ จุดเด่นที่สำคัญของเรือนี้คือมีใบพายเป็นรูปหัวใจ และยังมีบ้านเรือ (House Boat) ไว้สำหรับผู้สนใจเข้าพักค้างคืนด้วย
นอกจากนี้ ในทะเลสาบ เรายังจะได้พบกับ ตลาดผักลอยน้ำ (Vegetable Floating Market) หรือพื้นที่ที่ชาวแคชเมียร์ใช้ทำมาค้าขาย ไม่ว่าจะเป็นผ้าพันคอ เสื้อผ้า ของที่ระลึก งานเปเปอร์มาร์เช่ และงานหัตถกรรมทั้งหลาย ตั้งแต่เช้าตรู่ เราจะเห็นพ่อค้าแม่ขายพายเรือมาให้ผู้สัญจรหรือนักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ-ขายสินค้ากัน โดยเฉพาะผัก ผลไม้ และดอกไม้
ได้ชื่อว่าเป็นทุ่งหญ้าของดอกไม้ (Meadow of Flower) ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่จะเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ที่โอบล้อมไปด้วยป่าสนและเทือกเขาหิมาลัย เนื่องจากเป็นทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าที่งอกงามตามฤดูกาล และยังเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟ 18 หลุม ที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นเหล่านักกอล์ฟเข้ามาจับจองพื้นที่ในช่วงฤดูร้อน และในฤดูหนาว สามารถขึ้นกระเช้ากอนโดลาขึ้นสู่ลานสกีและจุดชมวิวแบบพานอรามา อีกทั้งยังมีสกีรีสอร์ทให้ได้พักแรมด้วย เรียกว่าไม่ว่าจะมาช่วงไหนของปี รับรองว่าคุณมีอะไรให้ทำสนุกๆอย่างแน่นอน
โซนามาร์ค (Sonamarg) หรือทุ่งหญ้าทองคำ (Meadow of gold) ที่ได้สมญานามเช่นนี้ เนื่องจากระหว่างทางเราจะได้พบกับทุ่งดอกมัสตาร์ดสีเหลืองกว้างสุดลูกหูลูกตา มีฉากหลังเป็นเทือกเขาหิมาลัย สวยงามจับใจผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง โซนามาร์คแห่งนี้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,740 เมตร เปรียบเสมือน “ประตูสู่ลาดัคห์” เพราะเป็นจุดสุดท้ายก่อนมุ่งหน้าไปยังเมืองเลห์ของลาดัคห์ และยังมีธารน้ำแข็งกราเซีย (Thajiwas Glacier) ที่เกิดจากหิมะทับถมกันมานาน และมีความหนาวเย็นตลอดทั้งปี
หรือหุบเขาแกะ อยู่ห่างจากเมืองศรีนาคาร์ออกไปอีก 90 กิโลเมตร เดิมเคยเป็นหมู่บ้านเลี้ยงแกะ ปัจจุบันเป็นสถานที่ที่นิยมมาถ่ายทำภาพยนตร์กัน ด้วยสภาพธรรมชาติที่รายล้อมไปด้วยแม่น้ำลำธาร (มีแม่น้ำลิดดาร์เป็นแม่น้ำสายสำคัญ) หุบเขา ป่าสน ทุ่งหญ้ากว้าง มีฉาก
เขาหินเจ็ดดาว หรือ เซเว่นสตาร์แคร็กส์ (Seven Star Crags) ในเมืองจ้าวชิ่ง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คทางธรรมชาติที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก
ภูเขาติ่งหู หรือ Dinghu Mountain เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในประเทศจีน ด้วยความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมสมบูรณ์
หุบเขาโอยะสุเคียว เป็นหนึ่งในอัญมณีที่ซ่อนเร้นของจังหวัดอาคิตะ ประเทศญี่ปุ่น ด้วยทิวทัศน์อันตระการตาของหน้าผาสูงชันที่ถูกกัดเซาะโดยแม่น้ำมินาเสะมาเป็นเวลานาน
หมู่บ้านเหอมู่ (Hemu Village) เป็นอีกหนึ่งไข่มุกแห่งธรรมชาติที่ซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาอัลไตของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์