ณ ปลายสุดของเส้นทางสายไหม บนผืนดินแดนตะวันตกอันแห้งแล้ง ด่านเจียยวี่กวนตั้งตระหง่านท้าทายกาลเวลา เป็นด่านสุดท้ายของกำแพงเมืองจีนอันยิ่งใหญ่ ยืนหยัดเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังอำนาจและความเฉลียวฉลาดของชนชาติจีน ด่านเจียยวี่กวนมิใช่แค่ปราการอันแข็งแกร่ง แต่ยังเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรม บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางอันยาวนานของประวัติศาสตร์จีน
การก่อสร้างด่านเจียยวี่กวนเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1372 ในสมัยราชวงศ์หมิง โดยจักรพรรดิหงหวู่ กำแพงเมืองจีนช่วงนี้มีความยาวกว่า 33 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยป้อมปราการ 2 แห่ง คือ ด่านเจียยวี่กวน และด่านซุยโจว ด่านเจียยวี่กวนมีลักษณะเป็นป้อมปราการสี่เหลี่ยมจัตุรัส สูง 10 เมตร กว้าง 98 เมตร ประตูเมืองหันหน้าไปทางทิศตะวันตก
ด่านเจียยวี่กวนมีบทบาทสำคัญในการป้องกันประเทศจากการรุกรานของชนเผ่าเร่ร่อนทางตอนเหนือ ด่านนี้เป็นจุดผ่านสำคัญบนเส้นทางสายไหม ควบคุมการค้าขายระหว่างจีนกับเอเชียกลาง ด่านเจียยวี่กวนยังเป็นศูนย์กลางการทหาร มีทหารประจำการอยู่หลายพันคน คอยตรวจตราและรักษาความปลอดภัย
ด่านเจียยวี่กวนมีสถาปัตยกรรมที่งดงามและน่าทึ่ง ตัวกำแพงสร้างด้วยอิฐดินเผา ผสมผสานกับหินและไม้ มีการออกแบบอย่างชาญฉลาดเพื่อป้องกันข้าศึก ประตูเมืองมีขนาดใหญ่ ประดับด้วยลวดลายมังกรและสัตว์มงคล บนกำแพงมีป้อมปราการและหอสังเกตการณ์หลายแห่ง
ปัจจุบันด่านเจียยวี่กวนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจีน นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปบนกำแพง ชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของทะเลทรายโกบี เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ผ่านพิพิธภัณฑ์และนิทรรศการ ด่านเจียยวี่กวนยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลต่างๆ มากมาย ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก