ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันโทรศัพท์มือเป็นสิ่งที่จำเป็น และเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร รวมทั้งการถ่ายภาพ เพื่อเก็บความทรงจำต่างๆ โดยเฉพาะสายเที่ยวอย่างเรา ก็อยากเก็บภาพสวยๆ เมื่อไปเที่ยวในที่ต่างๆ เมื่อก่อนอาจจำเป็นต้องพกพากล้องถ่ายรูปไปด้วย ทำให้ไม่สะดวกในการพกพา และราคาแพงอีกด้วย ปัจจุบันมีแค่โทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวก็เพียงพอแล้ว อีกทั้งยังพกพาสะดวกอีกด้วย
หลังจากทาง Apple ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ iPhone 15 เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 ที่ผ่านมานั้น วันนี้ สนุกฮอลิเดย์ จะมาสรุปข้อมูล iPhone 15 มีอะไรใหม่บ้างเมื่อเทียบกับ iPhone 14 รุ่นไหนน่าซื้อกว่ากัน
iPhone 15 ก็ยังมี 2 รุ่นเหมือนเดิมคือ iPhone 15 ขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว และ iPhone 15 Plus ขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว ทุกรุ่นมาพร้อม Dynamic island เกาะสีดำที่อยู่ตรงกลางจอ เปิดตัวด้วยโทนสีใหม่ สีพาสเทล 5 สีด้วยกันได้แก่ ชมพู, เหลือง, เขียว, ฟ้า และ ดำ ฝาด้านหลังเป็นชิ้นเดียวกันหมดรวมทั้งฐานกล้องเช่นกัน
iPhone 15 และ iPhone 15 Plus เปลี่ยนกล้องหลักใหม่ให้กล้องความละเอียดถึง 48MP เดิมเป็นiPhone 14 และ iPhone 14 Plus ให้มาที่ 12MP และช่วงซูมแบบออปติคัล 4 เท่าได้ และมาพร้อมชิป A16 Bionic พร้อม GPU แบบ 5‑core ซึ่งเป็นชิปที่ใช้ใน iPhone 14 Pro
iPhone 15 และ iPhone 15 Plus มาพร้อมกับช่องต่อ USB-C รองรับ USB 3 ให้คุณชาร์จ Mac หรือ iPad ด้วยสายชาร์จเส้นเดียวกันได้
สำหรับ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus โดยรวมแล้วหากมองจากรูปลักษณ์ภายนอก แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแม้กระทั่ง ปุ่มปิด/เปิดเสียง ยังคงเหมือนเดิม แต่ iPhone 15 Pro เปลี่ยนเป็นปุ่ม Action ซึ่งสามารถตั้งค่าให้ใช้งานหลายหลายแบบ iPhone 15 ราคาเริ่มต้นที่ 32,900 บาท ที่ความจุ 128GB iPhone 15 Plus ราคาเริ่มต้นที่ 37,900 บาท ที่ความจุ 128GB ซึ่งทั้ง 2 รุ่นมีความจุให้เลือก 128GB, 256GB และ 512GB
สำหรับใครที่อยากได้ iPhone ที่มีการปรับรูปลักษณ์ใหม่ ก็ต้องรุ่น iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max เพราะ 2 รุ่นนี้จะใช้วัสดุเป็นไทเทเนียม แข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักเบาขึ้น ขอบจอบางกว่าเดิมทำให้ตัวเครื่องเล็กลงแต่ขนาดจอเท่าเดิมคือ iPhone 15 Pro 6.1 นิ้ว และ iPhone 15 Pro Max 6.7 นิ้ว
นอกจากวัสดุแล้ว สิ่งที่เปลี่ยนไปชัดเจน ปุ่มเปิด/ปิดเสียง ที่มีใน iPhone มาอย่างยาวนานรวมทั้ง iPhone 15 เองก็ตาม แต่ใน iPhone 15 Pro ถูกเปลี่ยนเป็นปุ่ม Action สามารถตั้งค่าให้ทำงานได้หลากหลายแบบ เปลี่ยนได้ตลอด และยังสามารถเปิด/ปิดเสียงได้เช่นเดิม โดยการกดปุ่มค้างไว้
มีสีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ ไทเทนียมขาว (White Titanium) , ไทเทเนียมดำ (Black Titanium), ไทเทเนียมน้ำเงิน (Blue Titanium) และ ไทเทเนียมธรรมชาติ (Natural Titanium)
iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มาพร้อมกับชิปรุ่นใหม่ A17 Pro พร้อม GPU แบบ 6 core ผลงานการพลิกโฉมด้านการออกแบบ GPU ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple
สำหรับกล้องหลัก ให้ความละเอียดที่ 48MP ซูมได้สูงสุดถึง 5 เท่า สามารถบันทึกวิดีโอ 4K สูงสุด 60 fps สามารถบันทึกไปยังอุปกรณ์ภายนอก และยังสามารถบันทึกเป็นไฟล์ Log ได้
iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มาพร้อมกับช่องต่อ USB-C รองรับ USB 3 ให้คุณชาร์จ Mac หรือ iPad ด้วยสายชาร์จเส้นเดียวกันได้
โดยสรุปแล้วหากมองเรื่องการใช้งานโดยทั่วไป iPhone 14 และ iPhone 15 นั้นไม่ค่อยแตกต่างกันนัก แต่อาจเหมาะกับคนที่ใช้งานในการ ถ่ายวิดีโอ เป็นหลัก เพราะสามารถ่าย 4K ได้ถึง 60fps และบันทึกไปยังหน่วยความจำภายนอกได้
iPhone 15 Pro ราคาเริ่มต้นที่ 41,900 บาท ที่ความจุ 128GB มีความจุให้เลือก 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB ส่วน iPhone 15 Pro MAX ราคาเริ่มต้นที่ 48,900 บาท ที่ความจุเริ่มต้น 256GB มีความจุให้เลือก 256GB, 512GB และ 1TB