ปักกิ่ง เป็นเมืองหลวงของ ประเทศจีน ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งไม่เพียงแต่จะมีความงดงามของสถาปัตยกรรมโบราณ ศิลปะ และวัฒนธรรมของจีนที่มีมาอย่างยาวนานเท่านั้น ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ในประวัติศาตร์อีกหลายแห่ง และวันนี้เรามีพิกัดสถานที่ท่องเที่ยวเมือง ปักกิ่ง ประเทศจีนที่ห้ามพลาดมาฝากกันค่ะ
พระราชวังต้องห้าม หรือพระราชวังกู้กง หนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ได้รับยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิงจนถึงราชวงศ์ชิง ตั้งอยู่บนทำเลที่เรียกว่า หัวใจของปักกิ่ง (Heart of Beijing) มีพื้นที่ 720,000 ตารางเมตร มีอาคารมากกว่า 900 หลัง แบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ พระราชฐานชั้นนอก ซึ่งเป็นส่วนของพระที่นั่ง, ห้องทรงอักษร,สถานที่สำเร็จราชการ รวมถึงสถานจัดพระราชพิธีต่างๆ และ พระราชฐานชั้นใน ซึ่งใช้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์และสมาชิกราชวงศ์นั่นเองค่ะ
ปาต๋าหลิง ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 9 ด่านของกำแพงเมืองจีนที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และตั้งอยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองมากนัก เดินทางสะดวกสบายมีทั้งรางเลื่อนสไลด์ และกระเช้าเคเบิล และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยว โดยด้านบนมีพื้นที่กว้างขวาง และอยู่บนที่สูงจึงเป็นอีกจุดที่สามารถมองเห็นกำแพงเมืองจีนที่ทอดยาวคล้ายมังกรได้อย่างชัดเจนและสวยงาม
จัสตุรัสเทียนอันเหมิน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองปักกิ่งซึ่งมีขนาดใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของโลก เพราะที่นี่เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่มีเรื่องราวมากมาย และเปรียบเสมือนเอกลักษณ์ของจีนเลยก็ว่าได้ พื้นบริเวณรอบๆ มีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อาทิเช่น ประตูเทียนอันเหมิน,ประตูเฉียนเหมิน หรือประตูเจิ้งหยาง,ตึกอนุสรณ์สถานประธานเหมา , ตึกรัฐสภาประชาชน ,อนุสาวรีย์วีรชน และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีน เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาดค่ะ
หอสักการะฟ้าเทียนถาน หรือ เทียนตี้ถัน ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกรุงปักกิ่ง สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ.1420 ในสมัยจักรพรรดิหย่งเล่อ แห่งราชวงศ์หมิง ใช้ประกอบพิธีบวงสรวงฟ้าดิน เพื่อให้ฝนตกตามฤดูกาลตามความเชื่อของจีนโบราณ โดยตัวหอสูง 3 ชั้น เป็นไม้ทั้งหลังตั้งอยู่บนฐานที่เป็นหินหยกขาว ซึ่งความอัศจรรย์ของหอสักการะเทียนฐานอยู่ตรงที่ไม่ใช้ตะปูในการก่อสร้างแม้แต่ตัวเดียว นอกจากนี้องค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซุ้มประตูและทางเดินก็ตกแต่งด้วยปูนปั้นอันสวยงาม ปัจจุบันหอสักการะฟ้าเทียนถานเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะ ที่ให้ผู้คนได้มาเดินเล่น พักผ่อนและทำกิจกรรมต่างๆ
พระราชวังหยวนหมิงหยวน เป็นพระราชวังฤดูร้อนเก่า ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง มีขนาดกว้างใหญ่และมีการจัดสวนที่งดงามและได้รับการยกย่องว่าเป็น “ราชาแห่งสวนนับหมื่น” นอกจากนี้สิ่งปลูกสร้างภายในพระราชวังนั้นก็งดงามมากๆ มีทั้งสถาปัตยกรรมแบบจันและสถาปัตยกรรมตะวันตกสไตล์บาโรกซึ่งใช้เวลาก่อสร้างอย่างต่อเนื่องนานถึง 151 ปี แต่เป็นที่น่าเสียดายเมื่อยุครุ่งเรืองของพระราชวังแห่งนี้ถูกทำลายและถูกเผาด้วยกองกำลังทหารอังกฤษ-ฝรั่งเศสจนทำให้เหลือแต่ซากโครงสร้างที่เป็นหิน ซึ่งทางรัฐบาลจีนเคยคิดจะทำการบูรณะพระราชวังแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจอนุรักษ์เตือนใจถึงประวัติศาสตร์นั่นเอง
พระราชวังฤดูร้อน อี้เหอหยวน เป็นอุทยานหลวงที่งดงามที่สุดของจีน ตั้งอยู่ในเขตไห่เตี้ยน ห่างจากปักกิ่งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งแต่เดิมเป็นวังหลวงและสวนดอกไม้ของพระเจ้ากุบไลข่าน ต่อมาฮ่องเต้ราชวงศ์ชิงทรงใช้เป็นที่เสด็จแปรพระราชฐานในฤดูร้อนาอุทยานแห่งนี้ ต่อมาใน ยุคสงครามฝิ่นครั้งที่ 2 พระราชวังนี้ถูกทำลายลง แต่พระนางซูศรีไทเฮาก็รับสั่งให้บูรณะขึ้นมาใหม่ ด้วยเพราะชื่นชอบพระราชวังแห่งนี้มาก มีการขุดทะเลสาบคุณหมิงและนำดินที่ได้จากการขุดสระไปถมเป็นภูเขาให้ชื่อว่า ว่านโซวซ่าน หรือ ภูเขาหมื่นปี จากนั้นก็สร้างวังและตำหนักหลายหลังบนเขา มองลงมาเห็นทัศนียภาพอันสวยงามโดยเฉพาะหน้าหนาวน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็งอีกด้วย
สุสานราชวงศ์หมิง หรือ หมิงสือซานหลิง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกำแพงเมืองจีนและกรุงปักกิ่ง เป็นสถานที่ใช้เก็บพระศพของฮ่องเต้ราชวงศ์หมิง 13 พระองค์โดยรอบๆ สุสานมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามหลายจุดรวมถึงทางเดินแห่งจิตวิญญาณหรือ เสินเต้า ที่เปรียบเสมือนเส้นทางศักดิ์สิทธิ์ทอดยาวไปสู่ตัวสุสาน สำหรับสุสานทั้ง 13 แห่ง เปิดให้เข้าชมเพียง 3 แห่งคือ สุสานฉางหลิง ที่เก็บพระศพของอ่องเต้หย่งเล่อ เป็นพิกัดที่คนนิยมเข้าชมกันมากที่สุด, สุสานติงหลิงของฮ่องเต้ว่านลี่ ที่มีชั้นใต้ดินด้วย และสุสานเจ้าหลิงของฮ่องเต้หล่งซิ่ง
มาถึงเมืองจีนแล้วไม่ได้ไปเยือนกำแพงเมืองจีน ถือว่ายังมาไม่ถึงค่ะ โดยกำแพงเมืองจีนเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย กำแพงเมืองจีนใช้ระยะวลาหลายร้อยปีมีในการก่อสร้าง ความยาวประมาณสองหมื่นกว่ากิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 15 มณฑลของจีนและรับสมญานามว่าเป็น “กำแพงหมื่นลี้” สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดู โดยแต่ละฟดูก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันไปค่ะ
อีกหนึ่งพิกัดที่พลาดไม่ได้นั่นคือวัดลามะหรือ ยองกีกอง บ้างก็เรียกวัดองค์ชายสี่ หรือ ยงเหอกง (Yonghe Temple) ซึ่งในประวัติศาสตร์เป็นวัดที่คังซีฮ่องเต้ เสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประทับขององค์ชายหย่งเจิ้น หรือองค์ชาย 4 จุดเด่นของวัดนี้คือการรวมเอาความงดงามของสิ่งปลูกสร้างและวัฒนธรรมจากมองโกล, ฮั่น,แมนจู และธิเบตมาผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งไฮไลท์ก็มีหลายจุดด้วยกันอาทิหอระฆัง, มหาตำหนักยงเหอกง,ตำหนักฝ่าหลุน และวิหารว่านฝูเก๋อ เป็นต้น
และนี่ก็คือพิกัดสถานที่ท่องเที่ยวในปักกิ่งที่แนะนำให้จดไว้ในลิสต์สถานที่ห้ามพลาดค่ะ แต่ละจุดที่นำมาฝากกันนั้นมีทั้งทัศนีย์ภาพที่สวยงามและเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของจีนที่น่าสนใจ หากใครกำลังมีแพลนไปเที่ยวปักกิ่งอย่าพลาดไปเช็คอินตามสถานที่ ๆ เราแนะนำกันด้วยนะคะ