“7 สุดยอดสถานที่เที่ยว Hot Hit ที่ต้องไปเยือนรอบๆ มหานครโตเกียว ดินแดนซามูไร”
สวัสดีครับ ทุกๆคนหลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นยกเว้นวีซ่าคนไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 ก็ดูเหมือนญี่ปุ่นจะกลายเป็นประเทศยอดนิยมที่ใครๆต่างก็อยากไปสัมผัสสักครั้ง ทั้งที่ไปกับทัวร์และที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง และแน่นอนว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้ก็คงหนีไม่พ้นสถานที่ที่โอ๊ดจะมาแนะนำดังต่อไปนี้อย่างแน่นอน^__^”
…ด้วยความสะดวกสบายเรื่องการเดินทางที่มีเที่ยวบินตรงมากมายสู่โตเกียว อีกทั้งในช่วงนี้มีสายการบินโลวคอส แข่งขันกันทำราคาเพื่อดึงดูดลูกค้าให้หันมาใช้บริการของสายการบินนั้นๆ ผู้เดินทางอย่างเราๆจึงได้เรียบกับได้เปรียบอย่างเดียวเลย 55+อีกทั้งเวลาในการเดินทางแค่ 5 ชั่วโมงเศษๆเท่านั้น ก็ถึงสนามบินนาริตะประเทศญี่ปุ่นแล้ว แต่อย่าลืมปรับเวลานิดนะครับเนื่องจากเวลาท้องถิ่นของที่นี่จะไวกว่าประเทศไทยอยู่ 2 ชั่วโมงนะครับ…
สถานที่ท่องเที่ยว Hot Hit ที่พลาดไม่ได้นั่นก็คือ
1. อุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ เป็นแหล่งรวมบ่อนน้ำพุร้อนมากถึง 17 แห่งจากนั้นนำท่าน ล่องเรือทะเลสาบอาชิ (ใช้เวลาในการล่องในการล่อง 30 นาที) กับเรือแฟนตาซีโจรสลัด ซึ่งคอยให้บริการเราตลอดทั้งวันอีกทั้งทะเลสาบอาชิ หรือ อาชิโนโก๊ะ ยังเป็นทะเลสาบสามารถมองทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิได้สวยงามมากที่สุดอีกด้วย สวยงามดั่งภาพวาดสะท้อนลงสู่ทะเลสาบเปรียบดั่งสะท้อนจากกระจกใสบานใหญ่เลยทีเดียว…
…สวยงามราวกับภาพวาดเลยทีเดียว…
2.หุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani) 大涌谷 คนไทยมักรู้จักกันในชื่อหุบเขานรก เป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ มีบ่อน้ำแร่กำมะถันที่สามารถต้มไข่ให้สุกได้ มีจุดเด่นที่ไข่ที่ต้มจะกลายเป็นสีดำ..ซึ่งจะมีขายทั้งด้านบน และด้านล่างราคาขาย 6 ฟองราคาเพียง 500 เยนเท่านั้น และยิ่งถ้าไปในช่วงที่ไปอากาศเย็นๆ มีลมแรง ได้กินไข่ดำร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใครเลยทีเดียว คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าถ้าได้กินไข่ดำจากที่นี่ 1 ฟองอายุจะยืนขึ้น 7 ปี…
…ที่นี่ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เราสามารถชื่นชมความงามของภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย….
3.โกเทมบะ แฟคทอรี่ เอ้าท์เล็ต แหล่งรวมสินค้านำเข้าและสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นที่ดังไปทั่วโลก พบกับคอลเลคชั่นเสื้อผ้าใหม่ล่าสุด อาทิ MK MICHEL KLEIN, MORGAN, ELLE, CYNTHIA ROWLEY ฯลฯ เลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อดังได้ที่ร้าน BALLY, PRADA, GUCCI, DIESEL, TUMOI, GAP, ARMANI ฯลฯ เลือกดูเครื่องประดับและนาฬิกาหรูอย่าง TAG HEURE, AGETE, S.T.DUPONT, TASAKI, LONGINES ฯลฯรองเท้าแฟชั่น HUSH PUPPIES, SCOTCH GRAIN, SKECHERS, HOGAN ฯลฯ
…เราสามารถชื่นชมความงามของภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย….
4.โอชิโนะฮักไค หมู่บ้านน้ำใสอันศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของจังหวัดยามานะชิ ที่คนส่วนใหญ่เมื่อไปเยือนภูเขาไฟฟูจิแล้วจะต้องแวะเข้าไปเที่ยวเสียทุกครั้งไป โดยลักษณะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ จุดเด่นอยากแรกของโอชิโนะฮักไกก็คือบ่อน้ำทั้ง 8 บ่อภายในหมู่บ้านซึ่งเป็นน้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะบนภูเขาไฟฟูจิในช่วงฤดูร้อน ซึ่งไหลผ่านหินลาวาที่มีรูพรุนอายุกว่า 80 ปี รวมถึงแร่ธาตุต่างๆ จนทำให้น้ำในบ่อมีความใสสะอาดเป็นพิเศษนั่นเองซึ่งความใสของน้ำนี่เราสามารถมองเห็นตัวปลาที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำได้เลยทีเดียว
….ทั้งนี้คนญี่ปุ่นเชื่อว่าน้ำภายในบ่อเหล่านี้นอกจากจะมีความใสสะอาดและเย็นฉ่ำแล้ว ยังมีความศักดิ์สิทธิ์ ที่หากใครได้ดื่มก็จะมีอายุยืนยาว ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ โดยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนบ่อน้ำนอกจากจะตักดื่มได้แล้ว ยังสามารถพกขวดมารองน้ำเอากลับไปดื่มที่บ้านได้ด้วยนะครับ…
…นอกจากนั้นที่นี่ยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ชัดเจนอีกด้วย ในวันที่อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้เมฆหมอกมาบัง จากหมู่บ้านเราจะสามารถมองเห็นความน่าตื่นตะลึงของภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว รับรองได้เลยว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถชมความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิอย่างได้สบายๆเลย…
5.วัดอาซากุสะ หรือชื่อจริงๆ คือวัดเซ็นโซจิ เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ เป็นวัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว สร้างขึ้นในปี 628-645 ภายในวัดมีเทวรูป ประดิษฐานอยู่ รวมทั้งยังมีเจ้าแม่กวนอิมอันศักดิ์สิทธิ์ที่ใครมาขอพรสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการ นอกจากนี้ยังมีโคมแดงยักษ์ตั้งอยู่ที่บริเวณ ประตูด้านหน้าทางเข้า ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของที่นี่เลยก็ว่าได้
โดยจะมีถนนนากามิเสะที่เป็นถนนยาวเข้าสู่พื้นที่ภายในวัดสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าทั้งร้านขายของที่ระลึกและร้านขนม แนะนำว่าถ้าพอมีเวลาและจะซื้อของฝากให้ลองเดินสำรวจของและราคาไปก่อน แล้วค่อยมาซื้อตอนขากลับออกมาก็ได้ เพราะบางร้านก็ขายราคาไม่เท่ากันนะครับ
ประตูคามินาริมง ตัวอักษรญี่ปุ่นที่ 雷เขียนอยู่นั้นอ่านว่า Kaminari ซึ่งแปลว่าสายฟ้านั่นเอง
6. Odaiba (โอไดบะ) Odaiba เป็นแหล่งชอปปิ้งและความบันเทิงของโตเกียว ถ้าดูจากแผนที่แล้ว Odaiba มีสภาพเป็นเกาะอยู่ที่อ่าวโตเกียว ในสมัยเอโดะ ค.ศ.1603-1868 เกาะ Odaiba ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการ (คำว่า daiba แปลว่าป้อมปราการ) ป้องกันการรุกรานของข้าศึก ต่อมาอีก 100 กว่าปี เกาะ Odaiba ได้ถูกถมเพิ่มเพื่อใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ตึก สำนักงาน และ ท่าเรือ การถมทะเลในตอนนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหม่ในวงการก่อสร้างมาก ในปี ค.ศ. 1990 มีโรงแรม และศูนย์การค้ามาเปิดที่ Odaiba และเริ่มมีสิ่งก่อสร้างใหม่ๆ เกิดขึ้นเช่นตึก Fuji TV Building, Telecom Center และ Tokyo Big Sight ตอนนี้ Odaiba เป็นเมืองใหม่ของโตเกียว มีผังเมืองสวยงาม ตึกรูปทรงแปลกๆ รถไม่เยอะเหมือนโตเกียว และไม่วุ่นวายอีกด้วย
หลังจากนั้นเราเดินขึ้น Sky walk มาเรื่อยๆ จะเจอกับอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพจำลอง (Statue of Liberty) ส่วนของจริงนั้นอยู่ที่นิวยอร์ค ประเทศอเมริกานั่นเองและยังเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของ สะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge) เหตุที่ชื่อสะพานสายรุ้งมาจากตอนกลางคืนวิวที่สะพานจะเห็นแสงสีมากมายจากฝั่งโตเกียวเปรียบเสมือนสีของรุ้งที่มีหลากสี นอกจากนั้นเรายังสามารถมองเห็น Tokyo Tower จากจุดนี้ได้อีกด้วย
อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของห้างไดเวอร์ซิตี้ โตเกียว พลาซ่า (DiverCity Tokyo Plaza) เป็นห้างดังอีกห้างหนึ่ง ที่อยู่บนเกาะ โอไดบะ จุดเด่นของห้างนี้ก็คือ หุ่นยนต์กันดั้ม ขนาดเท่าของจริง สูง 18 เมตรตั้งอยู่ รายละเอียดสมจริงทุกสัดส่วนในบริเวณห้างก็จะมีร้านค้าสำหรับคอกันดั้ม อย่างกันดั้มคาเฟ่ (Gundam Cafe)อีกด้วย
7. ชินจูกุ (Shinjuku)หนึ่งในย่านที่นำสมัยที่สุดในโตเกียวเลยก็ว่าได้เป็นแหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ใจกลางเมืองหลวงโตเกียว เป็นศูนย์รวมแฟชั่นเก๋ๆ เท่ห์ๆ ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของของย่านนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Big Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย…
โอ๊ดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มและความประทับใจนะคับ……แล้วเราเจอกันโอกาสหน้ากับทัวร์ดี๊ดีนะครับบบ….
>>>OATEE<<<