สำหรับคนไทยที่จะไปเที่ยวอินเดีย ส่วนใหญ่มักมีความคิดว่า ไปเพื่อแสวงบุญ หรือไปเพื่อตามรอยพระพุทธเจ้ายังสถานที่ต่างๆที่เคยปรากฏในซีรีส์อินเดียเรื่อง พระพุทธเจ้า มหาศาสสำหรับคนไทยที่จะไปเที่ยวอินเดีย ส่วนใหญ่มักมีความคิดว่า ไปเพื่อแสวงบุญ หรือไปเพื่อตามรอยพระพุทธเจ้ายังสถานที่ต่างๆที่เคยปรากฏในซีรีส์อินเดียเรื่อง พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก หรือไปเพื่อชมพิธีบูชาเทพต่างๆ ของอินเดีย แต่สิ่งที่เป็นมนต์เสน่ห์ของอินเดียที่ชาวโลกหลงรัก คือสถาปัตยกรรมที่สวยงามของอินเดีย พระราชวังที่มีความโดดเด่นหรูหรา บางแห่งก็เป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่ข้ามผ่านกาลเวลามายาวนาน เรามาดู 5 พระราชวังที่สวยงามที่สุดของอินเดีย กันดีกว่า

รูปภาพจาก : wikimedia

ชีช์ มาฮาล (Sheesh Mahal) หรือ “พระราชวังกระจก” ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของป้อมอัครา จักรพรรดิชาห์ชะฮัน แห่งจักรวรรดิโมกุล ทรงมีพระราชประสงค์ให้สร้างหระราชวังแห่งนี้อย่างหรูหราในปี ค.ศ.1631-1632 ด้วยหินอ่อนสีขาว ตกแต่งโดยรอบด้วยงานโมเสก อันประกอบด้วยแก้วขนาดเล็กซึ่งให้แสงสะท้อนเหมือนกระจก

รูปภาพจาก : pixabay

ฮาวามาฮาล (Hawa Mahal) หรือ “พระราชวังแห่งสายลม”เป็นพระราชวังตั้งอยู่ในเมืองชัยปุระ รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย สร้างในปี ค.ศ. 1799 โดยมหาราชาสะหวาย ประธาป สิงห์ (Maharaja Sawai Pratap Singh) ออกแบบโดยลาล ชันด์ อุสถัด (Lal Chand Ustad) ซึ่งถอดแบบมาจากรูปทรงของมงกุฎพระนารายณ์ สิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นคือบริเวณด้านหน้าอาคาร มีหน้าบันสูง 5 ชั้น และมีลักษณะคล้ายรังผึ้ง ซึ่งประกอบด้วยหน้าต่างขนาดเล็กตกแต่งด้วยลวดลายฉลุเป็นช่องลมจำนวน 953 บาน โดยลายฉลุนั้นมีไว้เพื่อให้นางในวังมองทะลุออกมาเห็นชีวิตภายนอกบนท้องถนนได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็นจากด้านนอก เนื่องจากนางในเหล่านั้นต้องมีความเคร่งครัดในการคลุม “ปูร์ดาห์” (ผ้าคลุมหน้า)
พระราชวังแห่งนี้สร้างด้วยหินทรายสีชมพู และสีแดง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองชัยปุระ โดยเป็นส่วนหนึ่งของซิตี้พาเลส (City Palace) ซึ่งอยู่บริเวณติดกันกับเซนานา (Zenana) หรือฮาเร็ม นักท่องเที่ยวนิยมไปเยี่ยมชมในตอนเช้าพร้อมแสงอาทิตย์ตกกระทบบริเวณหน้าต่างเพื่อชมความงามของช่องลม

รูปภาพจาก : wikimedia

พระราชวังซิตี้พาเลซ ชัยปุระ (Udaipur’s City Palace) ตั้งอยู่ที่เมืองชัยปุระบริเวณถนน Hawa Mahal Bazar ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ถึง 1 ใน 7 ของใจกลางเมือง สร้างขึ้นในสมัยมหาราชาสะหวายจัย ซิงห์ที่ 2 จากนั้นก็ได้รับการดูแลต่อเติมโดยมหาราชาของชัยปุระรุ่นต่อๆ มา ที่สำคัญตอนเริ่มก่อสร้างพระราชวัง ยังอยู่ในช่วงที่ราชวงศ์โมกุลเข้ามามีอิทธิพลต่อรัฐราชสถานแล้ว สถาปัตยกรรมจึงมีการผสมผสานระหว่างแบบราชปุตกับโมกุล นอกจากนี้ การออกแบบพื้นที่ใช้สอยอาคารได้อย่างลงตัว ไม่แน่นทึบ และมีทางเดินกว้างขวางก็ถือเป็นความน่าสนใจอย่างหนึ่งของพระราชวังแห่งนี้ ปัจจุบันเปิดให้ประชาชนเข้าชมในนามของพิพิธภัณฑ์สะหวายมานสิงห์ (Sawai Man Singh Museum) แม้ยุคนี้จะไม่มีมหาราชาอีกแล้ว แต่ City Palace แห่งนี้ก็ยังเป็นสมบัติส่วนพระองค์ และชาวเมืองชัยปุระบางส่วนก็ยังนับถือพระองค์อยู่แม้พระองค์จะไม่มีอำนาจใดๆ สำหรับใครที่จะมาอินเดียย่อมพลาดเมืองนี้ไปไม่ได้เลย เพราะชัยปุระตั้งอยู่บนสามเหลี่ยมทองคำของการท่องเที่ยวของอินเดียร่วมกับ เดลี และอัครา

รูปภาพจาก : pixabay

“พระราชวังไมซอร์” (Mysore Palace) เป็นพระราชวังที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง ไม่ว่าคุณจะเดินทางมาจากที่ใด เป็นอันต้องสะดุดกับความงดงามของพระราชวังแห่งนี้อย่างแน่นอน

พระราชวังไมซอร์สร้างขึ้นในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 14 ในปีค.ศ.1683 หรือตรงกับพ.ศ.2181 ต่อมาได้เกิดฟ้าผ่าทำลายพระราชวังไปส่วนหนึ่ง และต้องบูรณะครั้งใหญ่ พร้อมกับการต่อเติมขยายบริเวณ แต่เมื่อถึงช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 พระราชวังแห่งนี้ได้ถูกผู้ปกครองชาวมุสลิมเข้ายึดครอง จึงได้ถูกทิ้งร้างให้ทรุดโทรมไปพักใหญ่ จนกระทั่งปีค.ศ.1793 เมื่อราชวงศ์ฟื้นฟูกลับมา จึงทุบทำลายและสร้างวังขึ้นใหม่ในที่เดิม
ต่อมาพระราชวังถูกเพลิงเผาผลาญในงานอภิเษกของเจ้าหญิงชายาลักษมี ในปีค.ศ. 1803 พระราชินีในตอนนั้น ทรงมีรับสั่งให้นายเฮนรี่ เออร์วิน สถาปนิกชาวอังกฤษ ออกแบบก่อสร้างวังใหม่ โดยให้ผสมผสานสถาปัตยกรรมหลากหลายรูปแบบไว้ด้วยกัน และสร้างเสร็จในปีค.ศ.1912 หรือ พ.ศ.2455

รูปภาพจาก : pixabay

ใครที่จะมาทัวร์อินเดียแล้วต้องไม่พลาดที่นี่ ทัชมาฮาล (Taj Mahal) รักเหนือกาลเวลา ในศตวรรษนี้ สังคมโลกรู้จักกันในฐานะของ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ และเป็นสถาปัตยกรรมหินอ่อนที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทัชมาฮาลตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ในเมืองอัครา สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมรา และเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด กว้าง-ยาวด้านละ 100 เมตร สูง 60 เมตร มีผู้สร้างและออกแบบร่วม 20,000 คน การก่อสร้างกินเวลานานถึง 22 ปี ทัชมาฮาลมีเนื้อที่ประมาณ 42 เอเคอร์ นายช่างที่ออกแบบชื่อ อุสตาด ไอซา ถูกประหารชีวิต เพื่อมิให้ไปออกแบบสถาปัตยกรรมใด ๆ ที่สวยกว่าได้อีก ส่วนบนสุดของทัชมาฮาลมีลักษณะโดมที่เรียกว่าโอเนียนโดม

แต่ที่น่าประทับใจไปกว่านั้น นอกจากทัชมาฮาลจะสวยงามแล้ว ที่มาในการก่อสร้างสถาปัตยกรรมอันยอดเยี่ยมชิ้นนี้ อาจกล่าวได้ว่า มันไม่ได้ตั้งอยู่บนรากฐานอิฐหินปูนทรายเหมือนสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ แต่รากฐานของความโอ่อ่ายิ่งใหญ่นั้นอยู่บน “หัวใจรัก” ของพระเจ้าชาห์พระนามว่า “จาห์ฮาล” ชาห์แห่งราชวงศ์ โมกุล ผู้ซึ่งเป็นโอรสของจักรพรรดิ ชาห์จาห์ฮาลจีห์ จักรพรรดิองค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์โมกุล แห่งอินเดีย ที่มีต่อนางมุมตัซ มาฮาล พระมเหสีของพระองค์นั่นเอง