ซาปา…..เมืองในฝัน สวรรค์ของจริง ‎หลายท่านคงจะคุ้นหูคุ้นตากับคำว่า “ซาปา”

แต่รู้หรือไม่ ว่าซาปา อยู่ที่ประเทศเวียดนามเหนือ ซาปาเป็นเมืองตากอากาศซึ่งอากาศดี และน่าอยู่มากๆ

ทริปนี้เป็นทริปฮานอย ซาปา 3 วัน 2 คืน โดยทีมงาน สนุก ฮอลิเดย์ ทัวร์ ค่ะ

วันแรก เจอกันที่ สนามบินดอนเมือง โดยใช้บริการของสายการบินนกแอร์ (DD) ลูกค้าทริปนี้มีด้วยกัน 26 ท่านนะคะ ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง.

เมื่อถึงสนามบินนอยไบ ประเทศเวียดนามแล้ว จัดการเรื่องรับกระเป๋าเสร็จ ก็ออกเดินทางไป จตุรัสบาดิงห์ บนถนนเดียนเบียนฟู ณ จัตุรัสแห่งนี้เป็นสถานที่ที่โฮจิมินห์ได้อ่านคำประกาศอิสรภาพของเวียดนามพ้นจากฝรั่งเศส ในวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2488 หลังจากตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสอยู่ถึง 48 ปี ที่ตั้งของอาคารที่โดดเด่น สง่างาม คือ สุสานโฮจิมินห์ ภายในบรรจุศพอาบน้ำยาของโฮจิมินห์ นอนสงบอยู่ในโลงแก้วในห้องปรับอากาศที่ขัดต่อความประสงค์ของท่านที่ต้องการให้เผาศพ (สุสานประธานาธิบดีโฮจิมินห์ จะปิดบริการทุกวันจันทร์ และศุกร์ของสัปดาห์และจะปิดบริการเพื่ออาบน้ำยาศพ ช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายนของทุกปี ไม่สามารถเข้าชมภายในสุสานได้)

จากนั้นนำท่านชมทำเนียบประธานาธิบดี ปัจจุบันใช้เป็นที่รับรองแขกบ้านแขกเมือง ทาด้วยสีเหลืองทั้งหลัง มีทหารเฝ้าห้ามเข้าไปใกล้ แต่มีเชือกกั้นให้ถ่ายรูปได้ในระยะไกล

และต่อด้วยบ้านพักของโฮจิมินห์ ที่เคยพำนักอยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2501-2512 บ้านพักสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง

จากนั้นนำท่านชมวัดเจดีย์เสาเดียว ที่วัดแห่งนี้ เรียกอีกชื่อว่าวัดแห่งรัก สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง เป็นศาลาเก๋งจีนหลังเดียวขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนต้นเสาเดียวอยู่ในสระบัวขนาดกลางรูปสี่เหลี่ยม ภายในประดิษฐานรูปเจ้าแม่กวนอิมปางแสดงอภินิหารมี 10 กร แต่ละกรถือของมงคลรวม 8 อย่าง

จากนั้นรับประทานอาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์ ที่ร้านSEN อาหารมีให้เลือกมากมาย แต่รสชาติของอาหารเวียดนามจะจืดๆหน่อย เลือกดีๆ ระวังจะเจอเนื้อสุนัขนะคะ อิอิ

จากนั้นได้เวลาออกเดินทางสู่เมืองซาปา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง เนื่องจากที่ประเทศซาปาจำกัดความเร็วของรถบัสที่ 60 กิโลเมตร /ชั่วโมง กว่าจะถึงโรงแรมก็มืดกันเลยทีเดียว มื้อเย็นนี้เราทานอาหารเย็นที่ห้องอาหารของโรงแรมค่ะ จากนั้นก็พักผ่อนตามอัธยาศัย

คืนนี้มีเวลาเหลือเยอะค่ะ มนเลยออกมาเดินเล่น เดินไปเรื่อยๆก็เจอลานกว้างหน้าโบสถ์ เห็นเด็กวัยรุ่นมาออกกำลังกายเล่นกีฬากันเต็มลานกว้างเลย บริเวณข้างทางก็จะเป็นร้านอาหาร บาร์ ร้านขายอาหารปิ้งย่าง ร้านขายเสื้อผ้า กระเป๋าเต็มไปหมดเลยค่ะ อากาศตอนนี้ถือว่ากำลังดี 18 องศาค่ะ

คืนนี้เรานอนกันที่ Sunny Mountain Hotel เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวที่ถือว่าสะอาดและใหม่สุดแล้วค่ะคืนนี้ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

วันที่สอง อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะ เช้านี้เราทานอาหารเช้าที่โรงแรมกันนะคะ วิวห้องอาหารสวยมากเลยค่ะ สามารถเห็นวิวได้360 องศาเลย จากนั้นได้เวลาเตรียมร่างกายเดินขึ้นภูเขากันค่ะ

ที่แรกที่เราจะไปคือ หุบเขาปากมังกร Ham rong mountain ซึ่งท่านจะได้ ชมดอกไม้เมืองหนาวนานาพรรณอันสวยงาม ภูเขาเล็กๆ ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า กลางเมืองซาปา มีความสูงประมาณ 150 เมตร ท่านจะต้องเดินเท้าขึ้นไปเที่ยวบนภูเขาลูกนี้บนภูเขาลูกนี้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ทางธรรมชาติวิทยาเพราะมีพืชพันธุ์ไม้นานาชนิดที่หายากตลอดจนไม้ดอกเมืองหนาวนานาพันธุ์สวยสดงดงามมากในช่วงฤดูหนาว จากนั้นจึงเดินเท้าต่อขึ้นไปยังจุดชมวิวสูงสุดของภูเขาลูกนี้ซึ่งทำเป็นบันไดสลับกับทางเดินเท้าพื้นราบผ่านสวนหินธรรมชาติรูปร่างแปลกตาซึ่งมีอายุนับพันปีสำหรับทางขึ้นจุดชมวิวนั้นวกไปเวียนมาคล้ายเดินอยู่ในเขาวงกต จนถึงบนจุดชมวิวเพื่อถ่ายภาพภาพของเมืองซาปาตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่เบื้องล่างห้อมล้อมไปด้วยเทือกเขาหว่างเหลี่ยนเซิ่นและเมื่อมองไปไกล ก็จะเห็นยอดเขาฟานซีปัน ความสูง 3,148 เมตร สูงกว่าภูเขาลูกใดๆในอินโดจีน เป็นภาพที่สวยงามคุ้มค่าจากการที่ท่านได้มาชม เหน็ดเหนื่อยจากการเดินมา 2 ช.ม. แล้ว ก็ได้เวลารับประทานอาหารกลางวันนะคะ แต่ก่อนจะถึงร้านอาหารก็ได้เดินผ่าน

โบสถ์ประจำเมืองซาปาค่ะแวะถ่ายรูปกันซักนิด

ร้านที่เรารับประทานอาหารกันคือร้าน Red dao house bar & restaurant เป็นทั้งร้านอาหารและร้านกาแฟ

หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จก็ได้เวลาเดินไปทาง น้ำตกซิลเวอร์ (Silver Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม และสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ระยะไกล มีความสูงประมาณ 100 เมตร มีหลาย ระดับชั้น สายน้ำไหลลัดเลาะตามหน้าผาลงมาอย่างสวยงาม

จากนั้น ชม หมู่บ้านชาวเขากั๊ต กั๊ต (Cat Cat) หมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งเก่าแก่ของเมืองซาปา เดินเท้า เข้าชมทิวทัศน์อันสวยงาม ชมไร่นาขั้นบันไดของชาวเขา และเลือกซื้อสินค้าหัตถกรรมของชาวเขาภายในหมู่บ้าน ชมน้ำตกกั๊ต กั๊ต อีกหนึ่งความสวยงามตามธรรมชาติ ของซาปา

หลังจากเหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งวันก็ได้เวลารับประทานอาหารเย็นกันนะคะ เราทานกันที่ห้องอาหารของโรงแรมค่ะ

และเช่นเคย หลังจากทานอาหารเสร็จ มนและพี่ไกด์ท้องถิ่นหรือไกด์จุง ก็ออกไปหาหมูย่างทานกัน คืนนี้นอนพักเอาแรงนะคะ เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางอีกไกลล Zzz

วันที่สาม….อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะ

หลังจาก Check out ออกจากโรงแรมแล้ว เราก็ได้เวลาเดินทางกลับสู่เมืองฮานอย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ช.ม. ค่ะ

เมืองฮานอย มีความหมายว่า “เมืองที่มีแม่น้ำไหลผ่าน” ซึ่งหมายถึงแม่น้ำแดงที่ไหลผ่านตัวเมืองฮานอย อันเป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี

ชม ทะเลสาบคืนดาบ ทะเลสาบใจกลางเมืองฮานอย ทะเลสาบแห่งนี้มีตำนานกล่าวว่า ในสมัยที่ เวียดนามทำสงครามสู้รบกับประเทศจีน กษัตริย์แห่งเวียดนามได้สงครามมาเป็นเวลานาน แต่ยังไม่สามารถเอาชนะทหารจากจีนได้สักที ทำให้เกิดความท้อแท้พระทัย เมื่อได้มาล่องเรือที่ทะเลสาบแห่งนี้ ได้มีเต่าขนาดใหญ่ตัวหนึ่งได้คาบดาบวิเศษมาให้พระองค์ เพื่อทำสงครามกับประเทศจีน หลังจากที่พระองค์ได้รับดาบมานั้น พระองค์ได้กลับไปทำสงครามอีกครั้ง และได้รับชัยชนะเหนือประเทศจีน ทำให้บ้านเมืองสงบสุข เมื่อเสร็จศึกสงครามแล้ว พระองค์ได้นำดาบมาคืน ณ ทะเลสาบแห่งนี้ นำท่านข้าม สะพานแสงอาทิตย์ สีแดงสดใสสู่กลางทะเลสาบคืนดาบ

ชมวัดหง๊อกเซิน วัดโบราณ ภายในประกอบด้วย ศาลเจ้าโบราณ และ เต่าสต๊าฟ ขนาดใหญ่ ซึ่งมีความเชื่อว่า เต่าตัวนี้ คือเต่าศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 2 ตัวที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้มาเป็นเวลาช้านาน

จากนั้นนำท่านเลือกซื้อของฝากและของที่ระลึกบริเวณ ถนนสามสิบหกสาย ตั้งอยู่ใจกลางเมือง โดยถนนแต่ละสายจะขายของแตกต่างกัน แยกประเภทได้ชัดเจน สามารถเดินซื้อกันได้อย่างจุใจ ร้านเหล่านี้จะมีทั้งร้านของรัฐบาลและร้านของชาวบ้าน ‎เมื่อช็อปปิ้งเสร็จแล้วก็ได้เวลาเดินทางไปสนามบิน เมื่อทำการโหลดกระเป๋า ทำเอกสารตม. เสร็จก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง

ขากลับเรากลับสายการบินนกแอร์เหมือนเดิมค่ะ

มาถึงไทยประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ ก็ได้แยกย้ายกันกลับบ้านคร้า
‎ขอบคุณสำหรับโอกาสดีๆแบบนี้นะคะ….

สนุก ฮอลิเดย์ ทัวร์ พร้อมยินดีบริการค่ะ…