พระราชวังฤดูร้อน หรือ อี้เหอหยวน ตั้งอยู่ในเขตชานเมือง ห่างจากตัวเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพียง 15 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของ พระราชวังฤดูร้อนจะเป็นทะเลสาบคุนหมิง ในส่วนพระราชวัง และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆที่มีชื่อเสียงจะตั้งอยู่บนเขาว่านโซ่วซ่าน หรือภูเขาหมื่นปี พระราชวังฤดูร้อนจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และสิ่งก่อสร้างสไตล์จีนโบราณ รวมถึงอุทยานที่มีทัศนียภาพสวยงามมากที่สุดแห่งกรุงปักกิ่ง หากคุณมีแพลนจะไปเที่ยวพระราชวังฤดูร้อนแห่งนี้เรามีข้อมูลประวัติความเป็นมา และจุดไฮไลท์ที่ห้ามพลาดมาฝากกันค่ะ
พระราชวังฤดูร้อน ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 เดิมเป็นวังหลวง และอุทยานของพระเจ้ากุบไลข่าน ต่อมาในสมัยราชวงศ์หมิง และชิงมีการก่อสร้าง ต่อเติม และขยายพื้นที่อุทยาน จนแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1750 ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 60 ปี ต่อมาพระราชวังฤดูร้อนได้ถูกทำลายถึง 2 ครั้งจากในยุคสงครามฝิ่นครั้งที่ 2 และจากกองทัพชาติตะวันตกหลายชาติ แต่พระนางชูศรีไทเฮาสตรีผู้ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงมากที่สุดในจีนได้บูรณะพระราชวังฤดูร้อนแห่งนี้พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็น อี้เห่อหยวน มีการขุดสระเพื่อทำเป็นทะเลสาบคุนหมิง และนำดินที่ได้จากการขุดถมเป็นภูเขา พร้อมทั้งตั้งชื่อว่า ว่านโซวซ่าน หรือ ภูเขาหมื่นปี จากนั้นได้สร้างวัง พร้อมสิ่งก่อสร้างที่สวยงามมากมาย แต่เมื่อถึงยุคล่มสลายของราชวงศ์ชิง และพระนางชูศรีไทเฮาได้สวรรคต ทำให้พระราชวังฤดูร้อน อี้เห่อหยวนแห่งนี้ได้ถูกปิดลงทันที
ด้วยความมหัศจรรย์ของสถาปัตยกรรมที่ก่อสร้างด้วยฝีมือมนุษย์ อีกทั้งสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าที่แสดงถึงประวัติศาสตร์ และผลงานศิลปกรรมที่ยาวนานของจีน ทำให้พระราชวังฤดูร้อน และอุทยานอี้เห่อหยวนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์ยูเนสโก ภายใต้ชื่อ “พระราชวังฤดูร้อนและอุทยานในกรุงปักกิ่ง” ปัจจุบันพระราชวังฤดูร้อนได้บูรณะฟื้นฟู และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าเที่ยวชมตามสถานที่สำคัญต่าง ๆทั้งภายในพระราชวัง และอุทยานอี้เห่อหยวน โดยมีสถานที่ที่น่าสนใจดังนี้
เป็นสิ่งก่อสร้างที่สะดุดตา และสวยงามมากๆ สำหรับระเบียงยาวในพระราชวังฤดูร้อน ด้วยตัวระเบียงที่ยาวเป็นรูปโค้งเลียบไปตามริมทะเลสาบ ตกแต่งระเบียงทั้งภายใน และภายนอกด้วยภาพวรรณกรรมจีนที่ถูกระบายสีอย่างสวยงาม
เรือหินอ่อน สิ่งก่อสร้างที่น่าทึ่ง และสวยงามอย่างมาก ด้วยความสง่างามของเรือสองชั้นลอยอยู่บนเหนือน้ำ แต่ความจริงแล้วเป็นแท่งหินอ่อนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในน้ำเพื่อให้ดูว่าเป็นเรือหินอ่อนที่ลอยได้จริง สำหรับเรือหินอ่อนนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้พระนางซูสีไทเฮานั่งจิบน้ำชาดูวิวทิวทัศน์รอบ ๆบนเรือนั่นเอง
เป็นอีกหนึ่งตำหนักที่สวยงาม และหรูหราราวกับตำหนักขององค์ชาย แต่แท้จริงแล้วเป็นบ้านที่พักของลิเลียนยิง ขันทีมือขวา คนสนิทของพระนางซูสีไทเฮานั่นเอง ด้านนอกจะตกแต่งด้วยภาพถ่ายขบวนเสด็จของพระนางซูสีไทเฮา และมีตัวลิเลียนยิงอยู่ด้านขวาของพระนาง
เป็นตำหนักที่พระนางซูสีไทเฮาใช้เป็นที่เสด็จออกประทับนั่งบัลลังก์มังกร เพื่อให้บรรดาขุนนาง และเชื้อพระราชวงศ์เข้าเฝ้า ทั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ดั่งหงส์เหนือมังกร ซึ่งอำนาจของพระนางซูสีไทเฮาอยู่เหนืองฮ่องเต้นั่นเอง
เป็นจุดไฮไลท์ที่สำคัญ และยังเป็นสัญลักษณ์ของพระราชวังฤดูร้อนแห่งนี้ กับ หอคอย Tower of Buddhist Incense ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าบนเขาว่านโซ่วซ่าน เป็นงานออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมจีนคลาสสิค เพื่อใช้เป็นหอพุทธบูชา แต่ปัจจุบันได้ถูกเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ความรู้ทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของราวงศ์จีนในอดีต
พระราชวังฤดูร้อนยังมีจุดไฮไลท์ที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยเฉพาะทะเลสาบคุนหมิงในช่วงฤดูหนาวที่มีลักษณะกลายเป็นน้ำแข็งจนสามารถเล่นสเก็ตได้เลยทีเดียว อีกทั้งบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก และความสวยงามของพระราชวังที่ห้ามพลาด สำหรับผู้ที่สนใจ และมีแพลนไปเที่ยวชมความงดงามของพระราชวังฤดูร้อน อี้เห่อหยวน สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน โดยราคาบัตรเข้าเที่ยวชมเริ่มต้นที่ 20 หยวน