เบลเยียม (Belgium) มีชื่อทางการว่า ราชอาณาจักรเบลเยียม (Kingdom of Belgium) เป็น 1 ในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจ เบเนลักซ์ ตั้งอยู่ในยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือ มีเมืองหลวงคือ บรัสเซลส์ (Brussels) มีพรมแดนติดต่อกับประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี ลักเซมเบิร์ก และเนเธอร์แลนด์ ลักษณะภูมิประเทศแบ่งออกเป็นที่ราบชายฝั่ง ที่ราบสูงกลาง และที่สูงอาร์แดน จึงทำให้มีสภาพภูมิประเทศที่หลากหลาย มีแม่น้ำสายหลักได้แก่ แม่น้ำแอ็สโก (Escaut) และแม่น้ำเมิซ (Meuse) เป็นประเทศที่มีหลักฐานการดำรงอยู่ของชุมชนโบราณมาตั้งแต่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ จึงทำให้เป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมโบราณมากมาย ผสมผสานกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่จนทำให้เป็นประเทศที่มีเสน่ห์และกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก วันนี้เราจึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเบลเยี่ยมมาฝากกันค่ะ
เป็นจัตุรัสกลางเมืองบรัสเซลส์ เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในด้านสถาปัตยกรรมและความสวยงาม ที่ล้อมรอบด้วยอาคารที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรก สถาปัตยกรรมในยุคกลาง และสถาปัตยกรรมในสไตล์นีโอโกธิค ที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งในปัจจุบันก็ถูกใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ใช้สำหรับการรวมตัวของชุมชนและจัดงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ
เป็นมหาวิหารของคริสตจักรคาทอลิกซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Ghent โดดเด่นด้วยอาคารสไตล์โกธิคที่สูงถึง 89 เมตร ภายในอาสนวิหารแห่งนี้ก็ขึ้นชื่อในเรื่องของฉากแท่นบูชาที่รู้จักอย่างเป็นทางการในชื่อ Adoration of the Mystic Lamb และยังเป็นสถานที่เก็บผลงานของศิลปินชื่อดังคนอื่น ๆ อีกมากมาย
ย่านเมืองเก่าเมเคอเลินซึ่งเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ในยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนแบบหน้าจั่วและสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรกที่งดงาม โดดเด่นด้วยหอคอย Saint Rumbold สูง 97 เมตร ที่ตั้งตระหง่านสามารถมองเห็นได้จากทุกที่ และจัตุรัส Grote Markt จัตุรัสตลาดที่มีชื่อเสียงที่ล้อมรอบไปด้วยอนุสรณ์สถานและสิ่งก่อสร้างแบบคลาสสิคสไตล์เบลเยี่ยมในช่วงศตวรรษที่ 14
เมืองเก่าในยุคกลางที่ยังคงเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมอันแสนงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างและอาคารบ้านเรือนในสถาปัตยกรรมโกธิคและบ้านของจิตรกรชาวเฟลมิชในยุคแรก ที่นี่เต็มไปด้วยคลองและทะเลสาบซึ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์และความสวยงามให้กับเมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี โดดเด่นด้วยจัตุรัส Burg Square ที่รายล้อมไปด้วยบ้านเรือนหลากสีสันและยังเป็นที่ตั้งของหอระฆังสำคัญของเมืองซึ่งสูงถึง 83 เมตร
ปราสาทแห่งท่านเคาท์อันแสนลึกลับ ถูกสร้างขึ้นมาในสมัยศตวรรษที่ 9 เป็นที่พำนักของเคานต์แห่งแฟลนเดอร์สซึ่งคลั่งไคล้ในการทรมานและอำนาจมาหลายยุคสมัย ในปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เป็นปราสาทในยุคกลางแห่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในเมือง Ghent ล้อมรอบไปด้วยคูน้ำ ปราสาททั้งหลังสร้างขึ้นด้วยหิน เป็นที่รู้จักกันดีเกี่ยวกับห้องทรมานในอดีตที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมายเมื่อหลายร้อยปีก่อน
อาคารรูปทรงโมเลกุลสีเงินแวววาว สิ่งก่อสร้างทางสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่และโดดเด่นที่สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าของมวลมนุษยชาติและการฟื้นฟูหลังจากความบอบช้ำที่ได้รับหลังสงครามโลกใน ปี ค.ศ. 1958 เป็นอาคารที่มีความสูงถึง 330 ฟุต โครงสร้างของอาคารประกอบไปด้วยวัตถุทรงกลมขนาด 9 ลูกเรียงกันคล้ายกับโครงสร้างของโมเลกุล ภายในลูกกลม ๆ ก็มีทั้งจุดชมวิว ห้องแสดงนิทรรศการ และห้องอาหาร บริเวณแกนกลางของอาคารก็มีลิฟท์ความเร็วสูงที่ว่ากันว่าเร็วที่สุดในยุโรปอยู่ด้วย
ย่านเมืองเก่าของ Mons ซึ่งเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนอันงดงามที่มีอายุตั้งแต่ระหว่างศตวรรษที่ 15 ถึง 18 ซึ่งยังคงถูกอนุรักษ์เอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปในยุโรปยุคเก่ากันเลยทีเดียว โดดเด่นด้วยหอระฆังที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดย UNESCO ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองสามารถมองเห็นได้จากทุกมุม และโบสถ์ Sainte-Waudru ที่ภายในเต็มไปด้วยวัตถุโบราณทางศิลปะและศาสนามากมาย
โบสถ์นิกายโรมันคาธอลิกที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 ในสไตล์ Brabantine Gothic โดยหอระฆังของโบสถ์แห่งนี้ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ ถูกสันนิษฐานว่าก่อตั้งขึ้นในปี 1986 เอกลักษณ์ของโบสถ์แห่งนี้ก็คือหอคอย 3 หลังที่ยังสร้างไม่เสร็จ ภายในโบสถ์เต็มไปด้วยผลงานศิลปะมากมายและได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี 1998 ซึ่งมีคอลเลกชั่นประติมากรรม ภาพวาด และงานโลหะที่เก่าแก่และงดงามแสดงอยู่มากมาย
เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อันโด่งดังเนื่องจากเป็นที่ตั้งของยุทธการวอเตอร์ลู ซึ่งนโปเลียนได้พ่ายแพ้เป็นครั้งสุดท้ายในปี 1815 เดิมทีเป็นหมู่บ้านนิคมเกษตรกรรมขนาดเล็ก สถานที่สำคัญที่โดดเด่นของที่นี่ก็คือ The Lion’s Mound เนินเขาเทียมทรงกรวยขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานผู้เสียชีวิตในสมรภูมิวอเตอร์ลูในปี 1815 โดยมีรูปปั้นสิงโตขนาดใหญ่ยืนอยู่บนแท่นหินเหนือเนินเขามองไปทางทิศที่ตั้งของประเทศฝรั่งเศส
ประเทศเบลเยียมนั้นเป็นประเทศที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน ถึงแม้จะเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กแต่ก็เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่อันแสนงดงามและเป็นเอกลักษณ์ เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ผสมผสานกับวัฒนธรรมสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ก็ยังมีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม จนได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวว่าเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปยุโรปกันเลยทีเดียวค่ะ