เบเนลักซ์ หรือ สหภาพเศรษฐกิจเบเนลักซ์ เป็นกลุ่มเศรษฐกิจภูมิภาคที่ประกอบไปด้วย 3 ประเทศในทวีปยุโรปตะวันตก ได้แก่ ประเทศเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก ตั้งชื่อโดยนำเอาพยางค์ตัวหน้าของแต่ละประเทศมารวมกัน และตั้งเป็นชื่อ “สหภาพปลอดภาษีเบเนลักซ์” (Benelux Customs Union) ซึ่งทั้ง 3 ประเภทนี้แต่เดิมก็เคยเป็นอาณาจักรเดียวกันและเป็นที่รู้จักกันในชื่อของดินแดนแผ่นดินต่ำ โดยเป็นดินแดนที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล และมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกันตั้งแต่ในอดีต ซึ่งการรวมกันของทั้ง 3 ประเทศนี้ก็ทำให้เบเนลักซ์กลายเป็นดินแดนท่องเที่ยวยอดนิยมของทวีปยุโรป ที่ผสมผสานกันระหว่างความเก่าแก่ ความทันสมัย รวมไปถึงวัฒนธรรมและธรรมชาติที่ลงตัว ดังนั้นใครที่วางแผนมาเที่ยวประเทศเบเนลักซ์กันอยู่ เราก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาฝากกันค่ะ
จัตุรัสใจกลางกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม หรือที่เรียกว่า Market Square เป็นหนึ่งในจัตุรัสที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป สร้างขึ้นมาตั้งแต่ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 ล้อมรอบไปด้วยศาลากลางสไตล์บาโรกของอดีตสมาคมแห่งบรัสเซลส์ และพระราชวังของกษัตริย์ สิ่งปลูกสร้างที่เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอโกธิค ในปัจจุบันจัตุรัสแห่งนี้ถูกใช้เป็นพื้นที่ในการจัดงานและเฉลิมฉลองต่าง ๆ ของเมืองอีกด้วย
ที่นี่เป็นอาคารสถาปัตยกรรมแห่งวิทยาการที่สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตใหม่หลังสงครามโลก สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าของมวลมนุษยชาติและการฟื้นฟูหลังจากได้รับความบอบช้ำมาจากสงครามโลก ใน ปี ค.ศ. 1958 มีความสูงถึง 330 ฟุต โครงสร้างของอาคารประกอบไปด้วยวัตถุทรงกลมขนาด 9 ลูกสีเงินแวววาว เรียงกันคล้ายกับโครงสร้างของโมเลกุล โดยภายในลูกกลม ๆ ก็จะเป็นทั้งจุดชมวิว ห้องแสดงนิทรรศการ ห้องอาหาร และมีลิฟท์ที่ว่ากันว่าเร็วที่สุดในยุโรปอยู่บริเวณแกนกลางของอาคารด้วย
เมืองหลวงของประเทศลักเซมเบิร์กซึ่งตั้งอยู่ใจกลางยุโรปตะวันตก ที่นี่มีพระราชวัง Grand Ducal Palace พระราชวังหลวงซึ่งก่อสร้างตั้งแต่ปี 1572, ปราสาท Vianden Castle ที่ก่อสร้างขึ้นในยุคกลางตอนต้น และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น วิหารนอร์ทเทอร์ดาม (Notre-Dame Cathedral), ป้อมปราการ Casemates du Bock, จัตุรัส Place d’Armes, พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ลักเซมเบิร์ก (Letzebuerg City Museum), กำแพงคอร์นิช (The Walls of Corniche) ที่ได้รับสมญานามว่าระเบียงที่สวยที่สุดในยุโรป เส้นทางอยู่บริเวณป้อมปราการ Chemin de la Corniche
บ้านของนักเขียนและพิพิธภัณฑ์ชีวประวัติที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับแอนน์ แฟรงค์ นักแต่งเพลงชาวยิวในช่วงสงคราม ที่ได้ซ่อนตัวอยู่กับครอบครัวอีก 4 คนในห้องลับด้านหลังอาคารในช่วงสมัยศตวรรษที่ 17 อาคารตั้งอยู่บนคลอง Prinsengracht ใกล้กับ Westerkerk ในใจกลางกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยมีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับชีวิตและยุคสมัยของแอนน์ แฟรงค์ รวมไปถึงการประหัตประหารและการเลือกปฏิบัติของนาซี
พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะที่จัดขึ้นเพื่ออุทิศให้กับผลงานของ Vincent Van Gogh ศิลปินชื่อดังระดับโลก ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งได้รวบรวมเอาภาพวาดและผลงานของแวนโก๊ะมาจัดแสดงที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลก เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป
สวนดอกไม้ชื่อดังที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์สำคัญของประเทศเนเธอร์แลนด์กันเลยทีเดียว ตั้งอยู่ในเมืองลิซเซ่ (Lisse) เป็นหนึ่งในสวนดอกขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แหล่งเพาะปลูกดอกทิวลิปที่มีมากมายกว่า 800 สายพันธุ์ ถึงกว่า 7 ล้านดอกที่กว้างสุดลูกหูลูกตา นอกจากนี้ก็ยังมีดอกไม้ชนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น แดฟโฟดิล ลิลลี่ ไฮยาซิน กล้วยไม้ ซากุระ โดยจะเปิดให้เข้าชมในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ตั้งแต่ประมาณปลายเดือน มีนาคม ถึงพฤษภาคม ของทุกปี
เป็นหมู่บ้านในชุมชน Waldbillig ในลักเซมเบิร์กตะวันออก ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อ “ลิตเติลสวิตเซอร์แลนด์” เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกันทางด้านภูมิศาสตร์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีลักษณะเป็นเนินเขาและธรรมชาติที่สวยงามชวนให้นึกถึงสวิตเซอร์แลนด์นั่นเอง ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและการเดินป่า เต็มไปด้วยบรรยากาศของท้องถิ่นอันเงียบสงบและแวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันแสนงดงามตระการตา
สะพานโมเสสที่ถูกสร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากคัมภีร์ไบเบิล ที่สามารถแหวกทะเลแดงให้กับชาวยิวข้าม จึงเป็นที่มาของสะพานที่ดูเหมือนเรากลับว่าแยกน้ำออกจากกัน สะพานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในป้อมปราการ Fort De Roovere ตั้งแต่ในสมัยศตวรรษที่ 17 ได้รับการออกแบบโดย RO & AD Architects สร้างขึ้นเพื่อเป็นแนวป้องกันเนเธอร์แลนด์การรุกรานของสเปนและฝรั่งเศส ในปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเดินหรือปั่นจักรยานข้ามสะพาน
ปราสาทยุคกลางซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Ghent ประเทศเบลเยียม เป็นปราสาทเก่าแก่ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1180 ถูกใช้เป็นที่พำนักของเคานต์แห่งแฟลนเดอร์สจนถึงปี 1353 หลังจากนั้นก็ถูกใช้เป็นศาล, เรือนจำ รวมไปถึงโรงกษาปณ์ หรือแม้แต่โรงงานฝ้าย ก่อนที่จะได้รับการบูรณะขึ้นมาในปี 1893–1903 ซึ่งในปัจจุบันก็ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมือง
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่เราได้แนะนำกันแล้ว ประเทศในกลุ่มเบเนลักซ์ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมายหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมในยุคเก่าอันแสนงดงาม สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ที่บอกได้เลยว่ามีความงดงามและมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป รอให้คุณได้ไปเยี่ยมชมกันอยู่ค่ะ