logo
image

icon-travel-2 เจแปนเแอลป์ กำแพงหิมะแห่งญี่ปุ่น

เจแปนเแอลป์ กำแพงหิมะแห่งญี่ปุ่น

มกราคม 29, 2020
แชร์ :

เส้นทางแอลป์ Tateyama Kurobe Alpine (คนญี่ปุ่นเรียกว่า Alpen) นั้นเป็นเส้นทางท่องเที่ยวผ่านภูเขาทาเทยาม่า (Mt. Tateyama) ที่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,400 เมตร ซึ่งจะมีวิวหุบเขาอันสวยงามและเขื่อนขนาดใหญ่ รวมถึงกำแพงหิมะในช่วงฤดูใบไม้ใบผลิ โดยนักท่องเที่ยวต้องเดินทางผ่านยานพาหนะต่างๆ ทั้งรถไฟ รถราง รถบัส กระเช้าไปตามเส้นทาง

ช่วงเวลาที่เปิดเส้นทางท่องเที่ยวนั้นอาจแตกต่างกันไปในแต่ละปี ปกติแล้วสามารถเปิดเต็มเส้นทางได้ในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงปลายเดือนพฤศจิยายน และจะมีการปิดเส้นทางในช่วงฤดูหนาวเนื่องจากมีหิมะทับถมเป็นปริมาณมาก

ช่วงเวลาเปิดเส้นทางในปี 2018

เปิดเต็มเส้นทาง (Dentetsu Toyama – Shinano Omachi) 15 เมษายน 2018 – 30 พฤศจิกายน 2018
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.alpen-route.com/th/ (ภาษาไทย)

พาหนะที่ 1 : Toyama Chiho Railroad
(Toyama – Tateyama : 52 นาที)
Toyama Chiho Railroadเราใช้เวลานั่งรถไฟประมาณ 50 กว่านาทีก็มาถึงสถานี Tateyama ตอนประมาณ 6:20 น. ระหว่างนั่งรถไฟมาก็เติมพลังด้วยขนมปังที่ซื้อตุนไว้จากเมื่อวาน ตอนเช้าๆ อย่างนี้ร้านอาหารตรงสถานียังไม่เปิดเลยค่ะ

วิวระหว่างนั่งรถไฟวิวระหว่างนั่งรถไฟมาสถานี Tateyama

Tateyama Stationตรงสถานี Tateyama นี้อยู่ที่ความสูง 475 เมตร เริ่มสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกแล้วค่ะ พอมาถึงเราต้องไปแลกพาสเป็นตั๋วสำหรับเส้นทางเจแปนแอลป์ที่บริเวณด้านหน้าสถานี (ถ้าไม่อยากต่อแถวยาวๆ แนะนำว่าให้นั่งรถไฟขบวนหน้าสุด พอถึงสถานี Tateyama ให้รีบลงมาจากรถไฟแล้วออกมาหน้าสถานีเลยค่ะ)

Tateyama Kurobe Alpine Route Ticketเราจะได้บาร์โค้ดพร้อมจองเวลาขึ้น Tateyama Cable Car ค่ะ (ตั๋วที่มีบาร์โด้ดนี้จะใช้สำหรับขึ้นพาหนะต่างๆ ในเส้นทาง และต้องติดไว้กับพาสตลอด ห้ามแยกจากกัน ตอนที่แลกตั๋ว เจ้าหน้าที่จะถามเราด้วย ไม่ก็ดูที่พาสว่าจากประเทศอะไร เค้าจะได้ให้คู่มือเป็นภาษาของเราด้วยค่ะ

Tateyama Station Shopใครเตรียมอุปกรณ์กันหนาวมาไม่พร้อม ที่ร้านขายของฝากบนนี้ก็มีให้เลือกเยอะเลยค่ะ ส่วนของกิน ตู้กดน้ำก็มีขายทุกสถานี แต่ราคาแพงกว่าปกตินิดหน่อยค่ะ

พาหนะที่ 2 : Tateyama Cable Car
(Tateyama – Bijodaira : 7 นาที)
Tateyama Cable Carเราต้องมาเข้าแถวขึ้น Tateyama Cable Car ก่อนถึงเวลาที่ระบุในตั๋ว 10 นาที เพื่อขึ้นไปยังที่ราบ
Bijodaira บนความสูง 977 เมตร เราได้รอบ 7:10 ใช้เวลานั่งรถประมาณ 7 นาที

วิวระหว่างนั่ง Cable Carถ้าอยากเห็นวิวด้านนอกควรหาที่นั่งริมกระจกนะคะ แต่วิวแถวนี้ยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

พาหนะที่ 3 : Tateyama Highland Bus
(Bijodaira – Murodo : 50 นาที)
จากนั้นก็มาต่อที่รถบัส Tateyama Highland Bus ขึ้นไปจนถึงสถานี Murodo เราได้ขึ้นตอนประมาณ 7:30 น. ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ตรงนี้ไม่ต้องจองที่นั่งแล้วค่ะ ถ้าเต็มก็ต้องต่อแถวรอรอบต่อไป

ภายในรถบัสระหว่างทางที่นั่งรถบัสก็จะมีวิวกำแพงหิมะเตี้ยๆ และวิวภูเขาให้ชมมีวิดีโอบรรยายข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางนี้และจุดท่องเที่ยวต่างๆ ถนนค่อนข้างคดเคี้ยวอาจทำให้เวียนหัวได้นะคะ ใครที่เมารถควรทานยาไปเผื่อด้วยก็ดีค่ะ

Murodo Stationสถานี Murodo อยู่ที่ความสูง 2,450 เมตร ซึ่งสูงที่สุดของแจแปนแอลป์แล้วค่ะ ตรงนี้ก็คือที่ตั้งของกำแพงหิมะ Tateyama “Yuki-no-Otani” Snow Wall ภายในสถานีมีทางขึ้นจุดชมวิวด้านบน และทางเดินกำแพงหิมะ ตอนที่เรามาถึงเป็นตอน 9:15 น. กำแพงหิมะยังไม่เปิดค่ะ (เปิด 9:30 – 15:15 น.) เลยขึ้นไปชมวิวด้านบนก่อน

วิวจากบนสถานี Murodoวิวจากระเบียงด้านบน ช่องที่เห็นลิบ ๆ นั่นคือทางเดินกำแพงหิมะนั่นเอง

ด้านบนนี้จะเป็นลานหิมะ ซึ่งขอบอกว่าหนาวมาก ลมพัดกันหน้าชา เสื้อกันหนาว ลองจอน ฮีทเทค ถุงมือ ผ้าพันคอจัดมาเต็ม ได้ใช้แน่ๆ ค่ะ บางช่วงก็หิมะตกลงมา เวลาถ่ายรูปเรา ในเฟรมก็จะเห็นเป็นละอองหิมะฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้งดีค่ะ อิอิ

ทางเดินหิมะทางเดินก็ลื่นมากด้วย (มีคนลื่นให้เห็นตลอด หนึ่งในนั้นคือเรา แหะ ๆ )ขนาดคนที่มีไม้ค้ำมากันด้วย ก็ยังลื่นเลยค่ะ

ลานหิมะพยายามเดินตรงที่หิมะยังไม่แข็งมาก ควรใช้รองเท้าที่มีดอกยางเยอะๆ ส่วนรองเท้าผ้าใบก็ใส่มาเดินได้ค่ะ ลื่นอยู่แต่ก็พอไหว ถ้าเป็นผ้าควรพ่นกันน้ำไว้ด้วยไม่ให้รองเท้าเปียก และถ้ามากันเป็นคู่ก็เดินเกี่ยวแขนกันไว้ค่ะ อีกคนลื่นหรือเซก็ยังมีอีกคนพยุงไว้ได้ (เพิ่งค้นพบวิธีนี้ตอนหลังๆ และลองมาแล้วก็ได้ผล ไม่ล้มอีกเลย อิอิ)

ตรงนี้มีที่ให้เดินกว้างสุดลูกหูลูกตาเลยค่ะ แต่เราไม่กล้าเดินไปไกล กลัวลื่นตกเขาเอิ๊ก บางคนก็เดินกันเก่งมาก ก้าวฉับๆ เดินเร็วด้วย ไม่ล้มเลยลานหิมะเห็นคนตัวเท่ามดเลย

Hotel TATEYAMA

โรงแรม Hotel TATEYAMA อยู่ตรงสถานี Murodo คนก็นิยมมาค้างที่นี่ค่ะ เพราะสามารถมาเดินตรงกำแพงหิมะหลังเวลาปิดได้ด้วย คนไม่เยอะเหมือนตอนกลางวัน ราคาค่อนข้างสูงเลยตกหมื่นกว่าเยนต่อคน สู้ไม่ไหว และช่วงนี้จองกันเต็มเกือบทุกวันเลย

จากนั้นเราก็กลับเข้ามาในสถานี Murodo เพื่อลงมาเดินที่กำแพงหิมะ พอเข้ามาในอาคารนี่หน้ามืดเลยค่ะ เพราะตอนออกไปไม่ได้ใส่แว่นกันแดด เห็นว่าไม่มีแดด เลยไม่อยากใส่ ถ้าวันที่แดดดีแนะนำว่าควรใส่แว่นกันแดดดีกว่าค่ะ เพราะแดดจะสะท้อนกับหิมะจนแสบตาแน่ๆ

Tateyama Snow Wallวันนี้กำแพงหิมะสูงสุดอยู่ที่ 19 เมตร อุณหภูมิ -2 องศา

การมาท่องเที่ยวบนเขาสูงอย่างนี้ส่วนหนึ่งต้องพกดวงมาด้วยค่ะ บางวันถ้าอากาศไม่ดี เค้าก็จะปิดเส้นทางบางส่วนก่อนหน้าที่เรามาวันสองวันก็มีปิดกำแพงหิมะไป วันที่เรามาท้องฟ้าไม่ใส แต่มาเที่ยวได้ก็ดีใจแล้วค่ะ (ถ้าอยากให้ดีกว่านี้ก็ขอท้องฟ้าใสๆ เห็นสีท้องฟ้าเข้มๆ แจ่มๆ เลย อิอิ) เพื่อนๆ สามารถเช็คพยากรณ์อากาศล่วงหน้าได้แต่จะให้แม่นจริงๆ คือล่วงหน้าแค่วันเดียวค่ะ เพราะอากาศมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้

Snow Slide มีสไลด์หิมะให้เล่น สนุกสนานกันมาก

Snow Walkตรงทางเดินกำแพงหิมะมีคนมากันเยอะมากค่ะ ตรงนี้มีหิมะละลายอยู่บนพื้นด้วย ค่อนข้างลื่นเหมือนกัน ตอนเราเดินนี่อย่างกับเล่นสเก็ตไหลไปได้เลย จึงต้องเบี่ยงมาเดินริมเชือกแทนยังไงก็เดินกันระวังๆ ด้วยนะคะ ล้มไปนี่ก้นดำก้นแฉะแบะแน่

Tateyama Snow Wallกำแพงหิมะที่เจแปนเอลป์นี้จะเปิดเป็นทางเดินยาวไปตามถนนประมาณ 500 เมตร โดยมีแค่ช่วงกลางเดือนเมษายนถึงปลายๆ เดือนมิถุนายนนะคะ

กำหนดการเปิดทางเดินกำแพงหิมะ ปี 2018 : 15 เมษายน – 22 มิถุนายน 2018

Snow Calendarตรงนี้เป็นจุดวันความสูงของหิมะที่ตกลงมาทับถมในแต่ละวัน

Snow Wallช่วงหน้าหนาวจะเป็นช่วงที่ปิดเส้นทางเพราะมีหิมะตกทับถมกันมากช่วงฤดูใบไม้ผลิจนถึงใบไม้ร่วงถึงจะเปิดให้คนขึ้นมาได้ค่ะ โดยจะใช้เวลาเคลียร์เส้นทางประมาณ 7-10 วัน ด้วยรถขุดรถตักซึ่งนำทางโดยจีพีเอส (คนญี่ปุ่นนี่ช่างคิดจริงๆ)

Tateyama Highland Busรถบัสที่พานักท่องเที่ยวมายังสถานี Murodo

กำแพงหิมะที่แจแปนเอลป์ยิ่งเดินไป ก็จะเห็นกำแพงสูงขึ้นเรื่อยๆ

Snow Wall Highest Pointถึงแล้วค่ะจุดสูงสุดของกำแพงหิมะ

Snow Wall Highest Pointป้ายอีกด้านมีภาษาไทยด้วยค่ะ จุดสูงสุดวันนี้อยู่ที่ 19 เมตร
(ชี้ไปตรงไหนก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน ฮาาา)

Tateyama Snow Wallเลยป้ายมานิดเดียวก็สุดทางแล้วค่ะ มีเชื่อกกั้นไว้ ไม่สามารถเดินต่อไปได้

ทางเดินกำแพงหิมะจากนั้นเราต้องกลับหลังหันแล้วเดินกลับทางเดิม

Murodoเราต้องกลับมาที่สถานี Murodo เพื่อขึ้นรถไปสถานีต่อไป

Tateyama Kumataroหน้าตาของรถขุดจ้า มีชื่อว่า Tateyama Kumataro (ดูจากป้ายตอนที่เห็นตรงกำแพงหิมะนะ)

Murodo Shopทุกสถานีจะมีร้านขายของฝาก ถ้ารีบซื้อก็ต้องแบกกันไปยาวๆ เลย

Tateyama Tunnel Trolley Busมาเข้าคิวขึ้นรถไปต่อค่ะ เส้นทางเจแปนแอลป์นี้ยังอีกยาวไกล~ ถ้าใครจะมาเที่ยวแค่กำแพงหิมะ ก็นั่งรถบัสกลับจากสถานี Murodo ไปตามเส้นทางเดิมได้เลยค่ะ

พาหนะที่ 4 : Tateyama Tunnel Trolley Bus (Murodo – Daikanbo : 10 นาที)

Tateyama Tunnel Trolley Busต่อกันด้วย Tateyama Tunnell Trolley Bus เป็นรถบัสซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้า จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมค่ะ เราจะนั่งรถบัสลอดอุโมงค์ทะลุเขาทาเทยาม่าไปอีกฝั่งซึ่งเป็นสถานี Daikanbo ใช้เวลานั่งรถประมาณ 10 นาที

ตอนนี้เป็นเวลาประมาณเกือบเที่ยงแล้วค่ะ เราอยู่กันที่สถานี Daikanbo เรียบร้อยแล้ว โดยเราเดินทางมาจากฝั่งสถานี Dentetsu Toyama นะคะ

Daikanboสถานี Daikanbo นี้อยู่บนความสูง 2,316 เมตร ภายในสถานีมีพื้นที่ค่อนข้างเล็ก คนอาจมากระจุกกันตรงจุดนี้เยอะหน่อย นอกจากนี้ด้านบนของสถานียังมีจุดชมวิวบนดาดฟ้า ต้องเสียเวลารอคิวและเดินขึ้นบันไดไปค่ะ คนเลยออกันในสถานีกันเป็นจำนวนมาก เราสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์เทือกเขาแอลป์ได้เต็มๆ ที่จุดนี้ค่ะ เป็นจุดที่ควรแวะจุดนึงบนเส้นทางแอลป์เลย

บันไดค่อนข้างแคบ สามารถขึ้นลงได้ฝั่งละคนเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นข้างบนนี้สามารถมองเห็นเทือกเขาแอลป์ได้แจ่มมากๆ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นระหว่างที่อยู่บนนี้ก็มีหิมะตกมาปรอยๆ ด้วยค่ะ หนาวได้ใจ

Daikanboจุดชมวิวมีราวกั้น ทางเดินค่อนข้างแคบ การสัญจรติดขัดพอสมควร เพราะคนจะต่อคิวขึ้นไปถ่ายกับป้ายด้านบน ถ้าเราต้องการทำเวลา ให้เดินเบี่ยงออกมาตามทางเลยค่ะ พอแชะภาพจนอิ่มแล้วให้รีบกลับลงมาต่อแถวเพื่อไปขึ้นกระเช้า Tateyama Ropeway ลงไปยังสถานีด้านล่างค่ะ

พาหนะที่ 5 : Tateyama Ropeway (Daikanbo – Kurobedaira : 7 นาที)

Tateyama Ropewayจากสถานี Daikanbo เราต้องเดินทางด้วยกระเช้า Tateyama Ropeway ลงมายังสถานี Kurobedaira ที่ความสูง 1,828 เมตร ขอบอกว่าวิวจากบนนี้สวยมาก พยายามหาที่ด้านหน้ากระเช้าให้ได้นะคะ (แต่เราอด –” ได้แค่ด้านข้าง) ใช้เวลาบนกระเช้านี้ 7 นาทีค่ะ

วิวเทือกเข้าแอลป์ญี่ปุ่นวิวระหว่างนั่งกระเช้า Kurobedairaที่สถานี Kurobedaira ก็มีจุดชมวิวด้านบนเช่นกันค่ะ และสามารถออกไปเล่นบนลานหิมะด้านนอกได้ ในสถานีนี้มีพื้นที่พอสมควร มีร้านอาหารขายด้วยค่ะ เราก็หิ้วท้องมาฝากร้านโซบะที่สถานีนี้ วิวเทือกเข้าแอลป์ญี่ปุ่นวิวเทือกเขาแอลป์ตรงนี้ก็แจ่มเช่นกัน

Kurobe Damมองลงไปก็เห็นเขื่อนคุโรเบะด้วยค่ะ (ตรงขวามือของรูป)

Tateyama Ropewayมองขึ้นไปด้านบนก็เป็นกระเช้าที่เรานั่งลงมาเมื่อครู่

พาหนะที่ 6 : Kurobe Cable Car (Kurobedaira – Kurobeko : 5 นาที)

Kurobe Cable Carแต่ว่าเรายังไม่ถึงเขื่อนคุโรแบะนะคะ! เราต้องนั่ง Kurobe Cable Car ลงไปที่สถานี Kurobeko ด้านล่างที่ความสูง 1,455 เมตรอีกค่ะ ใช้เวลาบนรถประมาณ 5 นาที เส้นทางนี้เป็นอุโมงค์ มองวิวอะไรไม่เห็น ไม่ต้องแย่งที่นั่งริมกระจกก็ได้ค่ะ เรานี่โดนชนชาติอะไรก็ไม่รู้เบียดกระเด็นตอนจะขึ้นรถเลย (–“)

Kurobe Damจากสถานี Kurobeko ไปยังสถานี Kurobe Dam จะต้องเดินเท้าผ่านเขื่อนคุโรเบะไปค่ะ เค้าบอกว่าใช้เวลา 15 นาที แต่เราใช้เวลานานกว่านั้น ทางเดินค่อนข้างยาวเลยและเพราะมัวแต่แวะถ่ายรูปด้วยแหละ ลมค่อนข้างแรง หนาวทนไม่ไหวแล้ว ถึงได้รีบเดิน (ฮาาา)

Kurobe Damเขื่อนคุโรเบะยิ่งใหญ่อลังการมาก เป็นเขื่อนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นด้วยความสูง 186 เมตร ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 7 ปี ระหว่างสร้างก็มีคนงานเสียชีวิตไปนับร้อยเลยค่ะ

น้ำในเขื่่อนน้ำในเขื่อนยังเป็นน้ำแข็งอยู่เลย

Kurobe Damสูงปรี๊ดจนไม่กล้ายื่นกล้องออกไปถ่าย กลัวลมพัดปลิว

เขื่อนคุโรเบะอีกด้านเหลือเป็นลำธารน้อยๆ

Kurobe Damแถวนี้คนไม่ค่อยเยอะละค่ะ เพราะอาจเป็นช่วงบ่ายแล้วด้วย (คนที่มาต้องดูเวลาให้ดีๆ นะคะ เพราะเราจะต้องลงจากเจแปนแอลป์ให้ทันรถรอบสุดท้ายนะคะ) สามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนได้นะคะ แต่เราเหนื่อยไม่ไหวแล้ว ขอบาย ณ จุดๆ นี้ (มีทางขึ้นอยู่ด้านในสถานี Kurobe Dam นะคะ ไม่ต้องไต่บันไดด้านนอกนี้ขึ้นไปนะ เสียวน่าดู เอิ๊กๆ)

ทางเดินในเขื่อนเดินผ่านเขื่อนมาแล้วก็ต้องเดินรอดด้านในเขื่อนอีกยาวเหมือนกัน

สถานี Kurobe Damมาเข้าคิวขึ้นรถบัสกันต่อ เพิ่งจะ 2 โมงกว่าๆ ชิลๆ แล้วค่ะ

พาหนะที่ 7 : Kanden Turnal Trolley Bus (Kurobeko – Ogizawa : 16 นาที)

Kanden Turnal Trolley Busนั่ง Kanden Turnal Trolley Bus รอดอุโมงค์ภูเขาอาคาซาวะดาเคะ (Mt. Akazawadake) ไปยังสถานี Ogizawa ใช้เวลาประมาณ 16 นาที เหมือนได้นั่งพักแล้วค่อยยังชั่ว อิอิ

Ogizawaคาดว่าน่าจะมีคนไทยมาเที่ยวเยอะ เพราะมีภาษาไทยด้วยค่า

พาหนะที่ 8 : Local Bus (Ogizawa – Shinano Omachi : 40 นาที)

Shinano Omachi Local Busเกือบหมดแล้วค่ะ ฮึบๆ เราจะไปยังสถานี Shinano Omachi ถ้ามีพาส ก็โชว์พาสแล้วกระโดดขึ้นรถให้ถูกคันโลดดด ตรงนี้มีรถบัสหลายสาย ดูกันดีๆ นะคะ นั่งรถประมาณ 40 นาที ก็ถึงที่หมายตอนประมาณ 3 โมงครึ่งค่ะ

Shinano Omachi Stationสถานี Shinano Omachi

Alps Roman Kanลงรถเสร็จ ก็มารับกระเป๋าที่ฝากส่งมาจากโรงแรมที่โทยาม่าได้ที่ร้าน Alps Roman Kan ตรงข้างๆ สถานี สามารถรับได้ตั้งแต่เวลา 15:00 – 18:00 น. กะเวลาเที่ยวให้มาถึงตรงนี้หลัง 3 โมงเย็น ก็เอากระเป๋าแล้วไปต่อได้เลยค่ะ

สำหรับเส้นทางแอลป์ Tateyama Kurobe Alpine Route ก็จะสุดที่สถานี Shinano Omachi ค่ะ คนที่จะต่อรถไฟจากที่สถานีนี้ไปเมืองมัตสึโมโต้ (Matsumoto) อย่างเราก็ขึ้นรถไฟสาย JR นะคะ ถ้านั่งรถด่วนก็ไม่เกิน 40 นาที ถ้านั่งสาย Local จอดทุกป้ายก็ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ค่ะ (ถ้านับการต่อรถไฟนี้ด้วย วันนี้ก็ขึ้นรถกันไป 9 พาหนะ เลขสวยเลย เอิ๊กๆ)

Matsumoto Stationสถานี Matsumoto

ถ้าถามว่าเที่ยวเจแปนแอลป์นี่เหนื่อยมั้ย? ขอตอบเลยค่ะว่าเหนื่อยจริงๆ เพราะต้องเดินเยอะและเจอคนเยอะด้วยค่ะ เราออกจากโรงแรมที่เมืองโทยาม่ามาตั้งแต่ตี 5 จนสุดเส้นทางที่สถานี Shinano Omachi ก็ 3 โมงครึ่ง รวมใช้เวลาทั้งสิ้น 10 ชั่วโมงครึ่งเลย

ระหว่างทางก็มีแวะเข้าห้องน้ำ กินข้าว นั่งพักเหนื่อยบ้าง มีแวะชมวิวถ่ายรูปเกือบทุกจุด รอเข้าคิวขึ้นรถ และยังเป็นช่วงที่เส้นทางนี้เพิ่งเปิดเต็มรูทด้วย นักท่องเที่ยวเลยมากันเยอะ ทำให้ใช้เวลาค่อนข้างเยอะ ถ้าทำเวลาเร็วๆ และแวะไม่เยอะมาก 8 ชั่วโมงก็น่าจะได้ค่ะ (เอาจริงๆ ยังมีแรงไปเดินเที่ยวในเมืองมัตสึโมโต้ต่อ แต่แบบว่าขาลากเลย 555)

กำแพงหิมะกำแพงหิมะ (“Yuki-no-Otani” Snow Wall)

ถึงจะเหนื่อยแต่คุ้มค่ามาก หากใครมาญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ลองหาโอกาสมาชมความอลังการที่กำแพงหิมะและความงามของเทือกเขาเจแปนแอลป์แห่งญี่ปุ่นตามเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route นี้ดูนะคะ ตามป้ายไปเรื่อยๆ มีภาษาอังกฤษกำกับตลอด ไม่หลงค่ะ ^^

ถ้ามาช่วงที่เพิ่งเปิดกำแพงหิมะตอนกลางๆ เดือนเมษายน มีโอกาสที่จะได้เจอซากุระตามเมืองรอบๆ เส้นทางแอลป์ด้วยนะคะ ของเราได้ชมที่มัตสึโมโต้และที่เมืองทาคายาม่านิดหน่อยค่ะ ได้เก็บภาพของสองฤดูในทริปเดียวเลย คุ้มจริงๆ

ทัวร์ญี่ปุ่น


บทความที่เกี่ยวข้อง