กรุงเทพเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย เป็นศูนย์กลางของประเทศในทุกด้านนั่นทำให้กรุงเทพมีความเจริญก้าวหน้าและเติบโตเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจนปัจจุบันกรุงเทพกลายเป็นเมืองที่มองทางไหนก็เต็มไปด้วยตึกระฟ้า แต่ก็ยังมีสถานที่หลายแห่งที่ยังคงตั้งอยู่ได้ดังเช่นในอดีต คุณศิริพงศ์ ผการัตน์สกุล ศิลปินและช่างภาพชาวไทยผู้หลงไหลในความคลาสสิคของภาพถ่ายเมืองกรุงในอดีตจึงได้ตระเวนไปทั่วกรุงเทพเพื่อตามหาสถานที่ที่ปรากฎอยู่ในภาพถ่ายนั้นและถ่ายภาพเปรียบเทียบภาพปัจจุบันที่อยู่เบื้องหน้าโดยมีภาพในอดีตเป็นส่วนประกอบของภาพเพื่อเปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลง
สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)
บทสัมภาษณ์ – แรงบันดาลใจก็มาจากเป็นคนที่ชอบอดีตกาลเป็นทุนเดิมอยู่แล้วการได้รับรู้เรื่องราวในอดีตเป็นอะไรที่ทำให้เรารู้สึกอยากรู้ว่าวิถีชีวิตของผู้คนในอดีตนั้นแตกต่างกับปัจจุบันนี้มากแค่ไหนยิ่งเป็นยุคช่วงก่อนเราเกิดก็ยิ่งน่าสงสัย
ถนนจักรเพชร
กำแพงวัดโพธิ์ตรงข้ามตลาดท่าเตียน
บางคนถามผมว่าแล้วอนาคตล่ะ? อนาคตเป็นสิ่งที่เราได้เห็นและสัมผัสมันอยู่แล้วแน่นอน…พรุ่งนี้ก็คืออนาคตแล้วอดีตมันหอมหวนตรงที่ว่า เราไม่สามารถไปสัมผัสความรู้สึกในอดีตนั้นได้เต็มร้อยเหมือนเดิมอีกแล้ว
ตลาดท่าเตียน
ภาพถ่ายในสมัยก่อนนั้นก็น่าทึ่งมาก ภาพเพียงหนึ่งภาพสามารถบ่งบอกเรื่องราวได้มากมายยิ่งถ้าเราได้รู้จักสถานที่ และมีโอกาสได้พาตัวเราเองไปยืนอยู่ ณ จุดตรงนั้นในภาพได้ มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากจริงๆ
น้ำท่วมกรุงเทพ ปี 2485 ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า
เวลาผมถ่ายรูปในอดีตและปัจจุบันมาประกบคู่ขนานกันผมรู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับวิถีชีวิตผู้คนในสมัยอดีตเลย“เหมือนสองขั้วเวลามาบรรจบกันในสถานที่เดียวกัน”
พระเศวตคชเดชน์ดิลกฯ ช้างเผือกในรัชกาลที่ ๗ ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม
บางภาพก็สามารถทำให้เราขนลุกได้เหมือนกัน อย่างเช่นภาพที่ “วัดสระเกศ” เป็นต้น เป็นบริเวณที่เขาใช้เผาศพกัน เพราะในยุคสมัยหนึ่งเกิดโรคระบาดอหิวาตกโรคมีการขนศพส่งไปไว้ที่วัดสระเกศมากที่สุด ทำให้ฝูงแร้งแห่กันลงไปทึ้งกินซากศพ ตามลานวัด
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
ภาพอีกหลายสถานที่ก็ทำให้รู้สึกดีมาก อย่างเช่น ภาพสะพานหันผมรู้สึกว่าให้บรรยากาศเหมือนสะพานริอัลโตที่นครเวนิสเลย และภาพที่เสาชิงช้าที่มีการทำพิธีโล้ชิงช้า ซึ่งในสมัยนี้ไม่มีแล้ว
สะพานหัน
ขั้นตอนการท่องเที่ยวเพื่อตระเวนไปถ่ายรูปกระกบคู่อดีตกับปัจจุบันก็ไม่มีอะไรมากเริ่มจากหาภาพสมัยเก่าๆ จากอินเทอร์เน็ตเก็บไว้ และนำไปล้างอัดรูปจากนั้นหาข้อมูลสถานที่และแยกตามสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกันเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อให้สะดวกต่อการเดินทางไปถ่ายรูป
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะถ่ายได้ทุกรูปตามที่ตั้งใจไว้ เพราะบางครั้งก็ต้องเจออุปสรรคบางสถานที่เปลี่ยนแปลงไปมากจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม มีการถมคลองที่ดิน บางสถานที่มีการสร้างอาคารทับไว้หากจะถ่ายรูปให้ได้เหมือนกับในภาพนี่ผมต้องมีตกคลอง ต้องขออนุญาติปีน หรือบุกเข้าบ้านคนอื่นเค้าแน่เลยครับ
แยกเอส. เอ. บี. (S. A. B. Intersection)
อุปสรรคอีกอย่างหนึ่งก็คือบ้านเรา อากาศร้อนมาก! วันแรกเล่นเอาสักเท้าพองและเกือบเป็นลมแดดเลย (ครั้งแรกผมเตรียมตัวมาไม่ดีนัก) จะว่าไปแล้วก็เหนื่อยเหมือนเดินจับ Pokémon GO เลยครับ
ผมไม่ได้เป็นคนหลงยุคนะ! เพรียงแต่ชอบท่องประวัติศาตร์และอดีต ก็เท่านั้นเองครับ
ศิริพงศ์ ผการัตน์สกุล
ที่มา: Siriphong Pakaratsakun