เจแปนแอลป์ (Japan Alps) หรือ ภูเขาทาเตยามะ (Mount Tateyama) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามฤดูกาลของประเทศญี่ปุ่น เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ เดือนเมษายน – เดือนมิถุนายน ถนนเส้นทางขึ้นเขาจะเต็มไปด้วยหิมะ แล้วจะถูกแกะให้รถสามารถผ่านได้ ทำให้ตลอดข้างทางเป็นเหมือน กำแพงหิมะ (Snow Wall) นักท่องเที่ยวจำนานจากทั่วโลกมักจะเดินทางไปเที่ยวชม สัมผัสกับกำแพงหิมะที่มีความสูงถึง 18 เมตร เส้นทางแอลป์จะเปิดให้ใช้งานเพียงแค่เดือน มิถุนายน – พฤศจิกายน เท่านั้น ลักษณะภูมิประเทศบนเส้นทางบนภูเขาทาเตยามะ อยู่ที่ระดับความสูงมากกว่า 3000 เมตร จึงมีอุณหภูมิแตกต่างอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับพื้นที่ราบโดยรอบ นอกจาก กำแพงหิมะ แล้วยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมาก เรามาทำความรู้จักเส้นทางท่องเที่ยวภูเขาทาเตยามะ กันเถอะ
อุณหภูมิมักลดต่ำกว่าศูนย์องศาเซลเซียสบ่อยครั้ง ดังนั้นการเตรียมตัวเพื่อให้คงความอบอุ่น ควรเตรียมรองเท้ากันน้ำ หรือรองเท้าบูตและคิดว่าถ้าเป็นรองเท้าแบบกันลื่นได้ด้วยก็คงจะดีไม่น้อย
ตำนานต้นสนยักษ์・ “บิโจสุงิ”(ต้นสนหญิงงาม) ขนาดมหึมาในตำนานตั้งตระหง่านอยู่ที่นี่ เส้นทางเดินทอดยาวผ่านป่าบริสุทธิ์ของต้นบีชและทาเตยามะซีดาร์
ตำนานหญิงงามซีดาร์ เมื่อ 1,300 ปีที่แล้ว ชายผู้เปิดภูเขาทาเตยามะได้หมั้นหมายกับเจ้าหญิงผู้งดงาม อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงถูกห้ามไม่ให้เข้าไปในภูเขาทาเตยามะ เจ้าหญิงเศร้าที่ถูกแยกจากความรักของเธอ ปีนขึ้นไปที่บิโจไดระและเล่าเรื่องราวที่น่าเศร้าของเธอให้ต้นสนซีดาร์ที่สวยงามฟัง เธอวิงวอนต้นไม้ “หากเธอมีใจ โปรดฟังความปรารถนาของฉัน” ต่อมาความปรารถนาของเธอเป็นจริงและทั้งคู่ก็แต่งงานกันอย่างมีความสุข ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ต้นไม้ต้นนี้จึงถูกเรียกว่า “บิโจสึกิ” หรือ “ซีดาร์สาวงาม” และบริเวณนี้ก็ถูกเรียกว่า “บิโจไดระ”
มิดางะฮาระอยู่ที่ระดับความสูง 1,900 ม. และเป็นหนึ่งในพื้นที่ชุ่มน้ำบนภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เส้นทางเดินเขาล้อมรอบด้วยพันธุ์ไม้บนเทือกเขาสูงหลากหลายชนิด ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2555 พื้นที่นี้ยังได้รับการจดทะเบียนในอนุสัญญาแรมซาร์ว่าเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีคุณค่ามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
พื้นที่ทาเตยามะมีหิมะตกมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก มีการทับถมโดยเฉลี่ยสูง 7 ม.และสูงถึง 20 ม.ในปีหิมะตกหนัก (เท่าตึก10 ชั้น) สามารถเดินผ่านกำแพงหิมะที่ขุดเป็นทาง 500 ม. สัมผัสประสบการณ์เล่นกระดานหิมะ หรือได้เห็นรถโกยหิมะอยู่บ้างช่วงกลางเดือนเมษายน หลังเปิดเส้นทางปลายเดือนเมษายน – มิถุนายน กำแพงหิมะจะมีขนาดใหญ่ที่สุด หลังเดือนกรกฎาคม กำแพงหิมะจะลดระดับความสูงเรื่อย ๆ แม้เข้าเดือนสิงหาคม ก็ยังมีหิมะเหลือให้เล่นกันได้
・บึงมิกุริกะ
ทัศนียภาพงดงามอันเป็นเหมือนตัวแทนของมูโรโด ที่ปล่องภูเขาไฟทาเตยามะบริเวณทะเลสาบ หลังเดือนมิถุนายนผิวน้ำในทะเลสาบจะเป็นสีน้ำเงินเข้ม หรือสีเขียวมรกต (cobalt blue) สะท้อนให้ภาพภูเขาทาเตยามะโดดเด่นบนผืนน้ำอย่างงดงาม บ่อน้ำแห่งนี้มีชื่อว่า “คามิ-โนะทาเมะโนะ-โชโบ-โนะอิเคะ” (ครัวเพื่อเทพเจ้า) ในสมัยก่อน เชื่อกันว่าใช้น้ำจากบ่อน้ำแห่งนี้นำไปปรุงอาหารเพื่อถวายแด่เทพเจ้า ในป่าสนบริเวณใกล้เคียงยังมีนกไรโจ(นกสายฟ้า)อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก บริเวณแห่งนี้อุดมไปด้วยพืชพรรณไม้บริเวณภูเขาสูง ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินเล่นเป็นอย่างยิ่ง
・น้ำพุร้อนทาเตยามะ-ทามะโดโน
นี่คือน้ำบริสุทธ์จากธรรมชาติรสชาติแสนอร่อยให้ความชุ่มคอสำหรับผู้คนจำนวนมากที่มาเยือน จะสามารถดื่มได้เพียงช่วงหิมะเริ่มละลายระหว่างต้นเดือนมิถุนายนถึงปลายเดือนตุลาคมเท่านั้น
・น้ำพุร้อนมิกุริกะ-อิเกะ
เป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ระหว่างกลางในเขต เส้นทางเดินเล่นที่บึงมิกุริกะ มีสถานที่หยุดพักผ่อนและสามารถอาบน้ำแร่แบบไปเช้าเย็นกลับ และมีไอศกรีมให้รับประทานด้วย
・ศูนย์อนุรักษ์ธรรมชาติ
ถูกสร้างเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้มาเยือนได้ศึกษาและสัมผัสกับความอุดมสมบูรณ์ที่หลากหลายอันเป็นธรรมชาติแบบเทือกเขาทาเตยามะ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์พืชหรือสัตว์หายากก็ปรากฏพบและรวมอยู่ในอาณาเขตของภูเขาทาเตยามะแทบทั้งสิ้น
เขื่อนคุโรเบะมีความสูง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล,ความสูงตัวเขื่อน 186 เมตร เป็นเขื่อนคอนกรีตแบบโค้ง(Arch dam) ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ปริมาณการระบายน้ำ : 10 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ปริมาณการเก็บกักน้ำ : 2 พันล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าต่อปี : 1 หมื่นล้าน kWh
เมื่อขึ้นบันไดไป 220 ขั้นจะถึงลานที่สามารถชมทิวทัศน์ของเขื่อนคุโรเบะได้ดีที่สุด เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถชมการปล่อยน้ำได้โดยใกล้ทุกวินาทีน้ำจะพุ่งออกมาจากเขื่อนมากกว่า10ตันน้ำพลังมหาศาลนี้ทำให้เกิดสายรุ้งพาดผ่านที่ดูแล้วสวยงามมาก
ล่องเรือสำราญบนความสูงที่สุดในญี่ปุ่น(1448 เมตร) ทัศนียภาพทะเลสาบคุโรเบะกับวิวเทือกเขาแอลป์สะท้อนบนผิวน้ำที่นี่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง
ขอบคุณข้อมูล และรูปภาพจาก https://www.alpen-route.com